Last updated: 4 พ.ค. 2565 | 3315 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) กันเป็นจำนวนมาก เพราะสามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายมากกว่าดูเวลา สำหรับวิธีการเลือกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) ให้ตอบโจทย์การใช้งานนั้น เราจะต้องตอบคำถามตัวเราเองให้ได้ก่อนว่าต้องการเรามีงบเท่าไรและต้องการใช้งานสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) ทางด้านไหน เมื่อเราตอบตรงนี้ได้แล้วเราก็จะสามารถเลือกฟังก์ชันที่ควรมีใน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) ได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ
วิธีเลือกสายรัดข้อมืออัจฉริยะยังไงให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด
1. เลือกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) ที่มีราคาคุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งาน
ซึ่งในปัจจุบัน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ก็มีราคาตั้งแต่หลัก 1000 ถึงหลัก 10000 ขึ้นไป และถ้าเราต้องการใช้สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ให้คุ้มค่าและได้ประโยชน์สูงสุดนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลือกซื้อรุ่นที่มีราคาแพงที่สุด แต่เราควรเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของเรามากกว่า เราถึงจะใช้ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์นั่นเองค่ะ
2. เลือกตามจุดประสงค์งการใช้สายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch)
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเราต้องตอบคำถามตัวเราเองให้ได้ก่อนว่าเราจะเลือกใช้งาน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ไปทางด้านไหนมากที่สุด เพื่อที่เราจะได้เลือกซื้อได้ถูกแบรนด์ ถูกรุ่น เพราะแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นเข้าก็มีจุดเด่นแต่ละด้านที่แตกต่างกันไป ถ้าเราเลือกตรงนี้ได้ก็จะช่วยให้เราเลือกใช้ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งจุดประสงค์การใช้งานสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ก็จะแบ่งเป็น 3 ข้อหลักๆ คือ
2.1 เลือกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) สำหรับออกกำลังกาย
ซึ่งต้องบอกก่อนว่าปัจจุบันคนส่วนมากนิยมนำ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ มาเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือ คนที่กำลังลดน้ำหนักเลยตัดสินใจที่จะออกกำลังกาย อย่างเช่น ออกกำลังกายโดยการวิ่งเป็นประจำทุกวัน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ที่เราควรเลือกซื้อควรมีฟังก์ชัน GPS เพื่อที่จะได้มีความแม่นยำในการตรวจจับระยะทางตอนวิ่งได้อย่างถูกต้องมากขึ้น และควรมีฟังก์ชันติดตามเป้าหมายการออกกำลังกายเพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้เราออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองค่ะ
2.2 เลือกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) สำหรับดูแลสุภาพ
โดยปกติ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ จะใส่ฟังก์ชันเหล่านี้มาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นติดตามการเต้นของหัวใจ ติดตามความเครียด ติดตามการนอน แต่ก็จะมีบางแบรนด์ที่ได้พัฒนาฟังก์ชันเหล่านี้ใน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ให้ดูโดนเด่นมากเป็นพิเศษ อาทิเช่นอาจจะมีการเพิ่มฟังก์ชันติดตามสุขภาพเพิ่มเข้าไปอีก ยกตัวอย่าง การติดตามออกซิเจนในเส้นเลือด การตรวจวัดความดันโลหิต หรือการติดตามลมหายใจขณะตอนหลับ เป็นต้น ซึ่งถ้าเราต้องการเลือกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ มาติดตามดูแลสุขภาพของเรา เราก็ควรเลือก สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ที่มีฟังก์ชันติดตามสุขภาพเหล่านี้ให้ครอบคลุมกับความต้องการใช้งานของเรานั่นเองค่ะ
2.3 เลือกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) สำหรับใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป
สำหรับข้อนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ต้องการใช้ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ใส่ในชีวิตประจำวันทั่วๆไปไม่ได้นำมาใส่แค่ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว เช่น ใส่อยู่บ้าน ใส่ไปทำงาน ใส่ไปเที่ยว ความสนใจก็จะมุ่งเน้นไปที่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสวยงามโดนเด่นเมื่อใส่แล้วเหมาะกับทุกโอกาสไม่ได้ดูเป็นนักกีฬาเกินไป แถมในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ก็ยังมีฟังก์ชันที่ทางแบรนด์ใส่มาให้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือน Line Facebook กิจกรรมต่างๆ สายเรียกเข้า หรือการเล่นเพลง ที่จะช่วยทำให้เราดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นนั่นเองค่ะ
3. ฟังก์ชันเพิ่มเติมที่ควรมีในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ (Smart wristband) หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch)
ฟังก์ชันเพิ่มเติมที่ควรมีในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ นั่นแบ่งออกเป็น 4 ข้อหลักๆ คือ
3.1 ฟังก์ชันกันน้ำ ในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ
สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ควรเลือกใช้รุ่นที่มีฟังก์ชันกันน้ำ และแนะนำให้เลือกรุ่นที่สามารถกันน้ำได้ตั้งแต่ระดับ 5 ATM หรือ กันน้ำได้ลึก 50 เมตรขึ้นไป เพราะว่าการกันน้ำระดับนี้จะช่วยให้เราสามารถใส่ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ อาบน้ำ ว่ายน้ำในสระ หรือใส่ตากฝนได้นั่นเองค่ะ
3.2 ฟังก์ชัน GPS ในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ
สำหรับฟังก์ชัน GPS หาก สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ มีฟังก์ชัน GPS มาแล้วในตัวถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันเลยทีเดียว เช่น ออกกำลังกายโดยการวิ่งทุกวัน ก็จะทำให้เปอร์เซ็นต์ระยะทางในการวิ่งที่วิ่งนั่นมีความแม่นยำมากขึ้นและคลาดเคลื่อนน้อยลงนั่นเองค่ะ
3.3 ฟังก์ชันแจ้งเตือน Social Media ในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ
ฟังก์ชันแจ้งเตือน Social Media ใน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่หลายคนให้ความสนใจกันเยอะมาก และถามว่าทำไมถึงควรมีใน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ที่ควรมีเพียงเพราะผู้คนสนใจเท่านี้หรืออย่างไร ซึ่งจริงๆคำตอบนี้ก็ใช่ แต่ก็ไม่ใช่สะทีเดียวเพราะคนที่ออกกำลังกายไม่ได้มีแค่นักกีฬา ปัจจุบันคนทั่วๆไปก็ออกกกำลังกาย และส่วนมากก็อยู่ในช่วงคนทำงานและตอนที่ไปออกกำลังกายเราก็จะไม่ได้พกมือถือกันไปอยู่แล้วเพราะมันเกะกะไม่สะดวกต่อการออกกำลังกาย ดังนั้นถ้าใน สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ มีฟังก์ชันการแจ้งเตือน Social Media แจ้งเตือนสายเรียกเข้า เมื่อมีเรื่องด่วนเข้ามาไม่ว่าจะเป็นการโทร หรือ การพิมพ์มาทาง Social Media ก็จะมาแจ้งเตือนที่ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ให้ทราบและกลับไปทำธุระได้ทันที ซึ่งคนทำงานก็จะทราบดีอยู่แล้วว่าถึงแม้จะเป็นเวลาเลิกงานแต่ถ้างานเข้าก็ต้องกลับไปทำนั่นเองค่ะ
3.4 ควบคุมการฟังเพลงในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ
สำหรับฟังก์ชันควบคุมการฟังเพลงในสายรัดข้อมืออัจฉริยะ หรือ นาฬิกาอัจฉริยะ ก็ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่ควรมี เพราะคนส่วนใหญ่ชอบฟังเพลงไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรอยู่ก็ตาม เช่น ทำความสะอาดบ้าน นั่งรถ นอนเล่น รวมถึงตอนออกกำลังกายด้วยก็เช่นกันถามตอนออกกำลังกายถ้าออกไปฟังเพลงไปก็จะทำให้เราออกกำลังกายได้นานขึ้นอีกด้วยค่ะ
>>แนะนำ สายรัดข้อมืออัจฉริยะหรือนาฬิกาอัจฉริยะ ราคาหลักพันที่น่าสนใจ คลิกเลย<<