ชนแล้วหนี! โทษเบาเปลี่ยนเป็นหนัก ต้องอาญาและติดคุก

ทุกวันนี้มีข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางท้องถนนมาให้เราเห็นกันเยอะมาก และส่วนใหญ่ก็จะมาในลักษณะชนแล้วหนีกันทั้งนั้นเลยล่ะครับ เพราะหลายๆ คนเวลาชนปุ๊บ ก็จะกลัวความผิด กลัวว่าตัวเองจะโดนจับ กลัวว่าตัวเองจะติดคุก ทำให้ตัดสินใจผิด และเกิดเรื่องบานปลายเข้าไปใหญ่ จากที่จะได้รับโทษสถานเบา กลับต้องเจอโทษสถานหนักเลย ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูกันว่า การชนแล้วหนีนั้นจะมีโทษอะไรบ้าง และการปฏิบัติที่ถูกต้องกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนนั้นเค้าทำกันยังไง

 

ตามกฎหมายว่ายังไงเมื่อเกิดเหตุรถชน

อันดับแรกมาดูข้อกฎหมายกันก่อนเลยครับ พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 78 เค้าบอกไว้ว่า “ผู้ใดขับรถหรือขี่หรือควบคุมสัตว์ในทาง ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นความผิดของผู้ขับขี่หรือผู้ขี่หรือควบคุมสัตว์หรือไม่ก็ตาม ต้องหยุดรถ หรือสัตว์ และให้ความช่วยเหลือตามสมควร และพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที กับต้องแจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล และที่อยู่ของตนและหมายเลขทะเบียนรถแก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย”

 

ชนแล้วหนี รถโดนยึด ตัวเองโดนจับ โทษเบากลายเป็นโทษหนักทันที!

เบื้องต้นที่บอกไปจะเห็นว่า เค้าให้ทำการหยุดรถและแสดงตัวเพื่อแสดงความรับผิดชอบทันที ต่อให้เราจะถูก หรือจะผิดก็ตาม ซึ่งถ้าเกิดเราขับรถชนแล้วหนีไปทันที ต่อให้เราเป็นฝ่ายถูก แต่กฎหมายจะสันนิษฐานว่าเราเป็นคนผิดทันทีครับ เค้าจะมองว่านี่เป็นคดีอาญา และยิ่งถ้าเราไม่ไปมอบตัวหรือแสดงตัวภายใน 6 เดือน กฎหมายจะสามารถยึดรถเราได้เลย

แต่สำหรับใครที่หลบหนีไปแล้วโดนจับ หรือมานึกขึ้นได้ทีหลังว่าควรจะมอบตัว ก็จะมีบทลงโทษคือ

กรณีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต : จำคุก 3 เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กรณีมีผู้บาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต : จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ชนแล้วหนี ต่อให้ไม่ผิด ก็มีคดีติดตัว

สำหรับการชนแล้วหนีนั้น สรุปสั้นๆ ง่ายๆ ได้ว่า มันเป็นการเพิ่มโทษให้กับตัวคนหนีขึ้นมาอีก 1 กระธง ต่อให้เราจะไม่เป็นฝ่ายผิดก็ตาม แต่ถ้าหนีปุ๊บ ทุกอย่างคือจบ เราจะมีคดีติดตัวเพิ่มมาอีกอันนึง แยกกับคดีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งนี่จึงเป็นเหตุผลที่เราไม่ควรหนีไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม


สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่ทำให้หลายๆ คนตัดสินใจหนีไปหลังเกิดอุบัติเหตุรถชนก็เพราะ เค้าเหล่านั้นไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดอย่างกล้องหน้ารถนั่นเองครับ ซึ่งต่อให้เราขับอยู่ดีๆ คนก็วิ่งตัดหน้าทั้งๆ ที่เป็นไฟเขียวเลนเรา แต่เรากลับชนเค้ากระเด็น บางคนก็กลัวว่าจะหาความยุติธรรมไม่ได้ ก็เลยหนีไป ซึ่งกล้องติดรถยนต์นั้นจะเป็นไอเทมที่สำคัญอย่างมากที่จะช่วยเป็นพยานในการชนครั้งนี้ เป็นหลักฐานอย่างดีที่จะบอกว่าเราเป็นฝ่ายถูก หรือผิดยังไง จากโทษหนักที่เราอาจจะได้รับเมื่อไม่มีกล้อง ก็จะกลายเป็นโทษสถานเบาทันที ดังนั้นใครที่ยังไม่มีกล้องหน้ารถรีบไปหาซื้อมาใช้กันด่วนที่ ไรเซอร์ เลยครับ