เปรียบเทียบภาพรีวิวจากกล้องติดรถทั้ง 3 กล้องของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 กับ VIOFO T130 !!

Last updated: 4 พ.ค. 2565  |  1084 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เปรียบเทียบภาพรีวิวจากกล้องติดรถทั้ง 3 กล้องของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 กับ VIOFO T130 !!

 

 

สำหรับกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 และกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130 เป็นกล้องติดรถยนต์ที่ไม่มีหน้าจอและมี 3 กล้องติดรถยนต์เหมือนกันก็คือ กล้องหน้าติดรถยนต์ กล้องหลังติดรถยนต์ และกล้องติดในห้องโดยสาร ส่วนในเรื่องของคุณสมบัตินั่นก็มีส่วนที่เหมือนและแตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นในเรื่องของรูปร่างหน้าตาของกล้องหน้าติดรถยนต์ก็จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนและอีก 1 อย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือสายต่อตรง Hardwire Kit นั่นเองค่ะ ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าแตกต่างกันยังไงก็ตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

 

  ลักษณะของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130

   กล้องติดรถยนต์ VIOFO A139



  กล้องติดรถยนต์ VIOFO T130



 

  สายต่อตรงของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130

  กล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 ใช้สายต่อตรง HK3-Hardwire Kit



  กล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 ใช้สายต่อตรง HK4-Hardwire Kit



 
ซึ่งถ้าใครเผลอซื้อสายต่อตรง Hardwire Kit ของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130 สลับกันก็จะใช้งานไม่ได้นั่นเองค่ะ และถึงแม้ว่ากล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130 จะใช้สายต่อตรง Hardwire Kit คนละแบบกันแต่หน้าที่ของสายต่อตรงทั้ง 2 ตัวนี้ก็ยังคงมีหลักการทำงานที่เหมือนกันอยู่นั่นก็คือ

 



  หน้าที่ของสายต่อตรง HK3-Hardwire Kit กับสายต่อตรง HK4-Hardwire Kit

  1. เพื่อใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. ของกล้องติดรถยนต์ ซึ่งถ้าใครต้องการใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. ของกล้องติดรถยนต์จะต้องใช้สายต่อตรง Hardwire Kit เท่านั้น



  2. เพื่อความเรียบร้อยของกล้องติดรถยนต์ เพราะถ้าใช้สายต่อตรง Hardwire Kit จะเป็นการต่อเข้าที่ช่องฟิวส์แท็บในรถยนต์ดังนั้นสายกล้องหน้าติดรถยนต์ก็จะถูกเก็บไว้ที่กล่องฟิวส์นั่นเอง และนอกจากนี้ตอนที่เสียบสายกล้องหน้าเข้ากับฟิวส์แท็บในรถยนต์ยังเลือกช่องฟิวส์แท็บได้ด้วยว่า จะเลือกเป็นช่องที่จ่ายไฟ 24ชม. ตอนที่ดับเครื่องยนต์เพื่อใช้งานโหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. หรือจะเลือกต่อกับช่องฟิวส์แท็บที่ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์ เพื่อใครไม่ได้อยากใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. แค่ต้องการความเรียบร้อยสายกล้องติดรถยนต์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันค่ะ

 

  ต่อไปในเรื่องของคุณสมบัติของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130 ซึ่งจะแยกออกเป็น 2 ตารางก็คือ ตารางเกี่ยวกับความละเอียดกล้องหน้าติดรถยนต์ กล้องหลังติดรถยนต์ และกล้องติดในห้องโดยสาร กับตารางคุณสมบัติทั้งหมดของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 และกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130 ที่สามารถทำได้ให้ เพื่อที่รูปของตารางจะได้ไม่ยาวจนดูยากจนเกินไปนั่นเองค่ะ

 



ความละเอียดของกล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 และกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130

  Resolution: ความละเอียดของกล้องติดรถยนต์

  Sensor: เซนเซอร์ของกล้องติดรถยนต์

  Aperture: รูรับแสงของกล้องติดรถยนต์

  Car camera view: มุมมองของกล้องติดรถยนต์

  LED Infrared: ไฟอินฟราเรดของของกล้องติดในห้องโดยสาร

  WDR: ระบบที่ช่วยให้คลิปวิดีโอสว่างเท่ากันทั่วทั้งคลิป

  Voice Notifications: ระบบเสียงแจ้งเตือนเมื่อกล้องติดรถยนต์มีปัญหา

  Microphone & Speaker: ไมโครโฟนและลำโพง

  Built-in WIFI: WIFI สำหรับใช้งานกล้องติดรถยนต์ในมือถือ

  Built-in GPS: สำหรับบันทึกความเร็วและพิกัดลงไปในคลิปวิดีโอ

  Parking Mode: รองรับโหมดบันทึกตอนจอด 3 แบบ

  Built-in Capacitor: ใช้คาร์ปาซิเตอร์เป็นแหล่งจ่ายพลังงาน

  Loop Recording: ระบบบันทึกวนลูปอัตโนมัติเมื่อเมมเต็ม

  G-Sensor: ล็อกคลิปอัตโนมัติเมื่อมีแรงกระแทกเกิดกับรถยนต์

  Time Lapse Recording: บันทึกคลิปแบบเร่งความเร็ว (คนละตัวกับ Time Lapse Parking Mode)

  Exposure Value: เมนูชดเชยแสงมีทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง และกล้องติดในห้องโดยสาร

  Bitrate: ระบบที่ควบคุมคุณภาพของคลิปวิดีโอทั้งหมดถ้าเลือกสูงคลิปที่ได้ก็จะภาพสวยคมชัด

  Micro SD Max: รองรับเมมโมรี่การ์ดสูงสุด

  Ports: หัวพอร์ตสายชาร์จกล้องหน้าติดรถยนต์

  Free CPL: ตัวช่วยตัดแสงสะท้อนออกจากคลิปวิดีโอ สามารถซื้อเพิ่มติดกับกล้องหลังได้

  *External Microphone: อุปกรณ์เสริมไมโครโฟนภายนอก

  *Bluetooth Remote Control: อุปกรณ์เสริมรีโมทบลูทูธสำหรับกดล็อกคลิปเอง

  *Hardwire Kit: อุปกรณ์เสริมสายต่อตรงสำหรับใช้โหมดบันทึกตอนจอด

 



  ภาพรีวิวใช้งานจริงจากกล้องหน้าติดรถยนต์ VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130





จากภาพทั้งกลางวันและกลางคืนจะเห็นว่าภาพที่ได้มีความสว่างเท่ากันเพราะทั้ง 2 ตัวมีความคมชัด 2K ใช้เซนเซอร์ Sony STARVIS IMX335 และมีรูรับแสงกว้าง F1.6 เท่ากันนั่นเอง ส่วนมุมมองก็กว้าง 140 องศาเท่ากันเช่นเดียวกันแต่ที่เห็นในรูปอาจจะรู้สึกว่าภาพจะดูเยี่ยง ๆ กันนิดหนึ่ง นั่นก็เพราะว่าตอนเก็บภาพรีวิวทางเราได้ติดกล้องทั้ง 2 ตัวนี้คู่กันเพื่อที่จะได้เก็บภาพรีวิวเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนมากขึ้นภาพที่ได้ก็เลยไม่ได้มีตัวใดตัวหนึ่งอยู่ตรงกลางรถยนต์นั่นเองค่ะ



 


  ภาพรีวิวใช้งานจริงจากกล้องหลังติดรถยนต์ VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130





จากภาพจะเห็นว่าภาพได้ก็คมชัดเท่ากัน ในเรื่องของความสว่างก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันแทบจะไม่ได้แตกต่างกันถึงแม้ว่าจะใช้เซนเซอร์ Sony กันคนละตัวก็ตาม เช่นเดียวกับมุมมองกล้องหลังที่ VIOFO A139 กว้าง 170 องศา ส่วน VIOFO T130 กว้าง 165 องศาแต่ทั้ง 2 ความกว้างนี้ถ้าเทียบกันจริง ๆก็แทบจะไม่แตกต่างกันเลยมองดูเผิน ๆก็คือเท่ากันนั่นเองค่ะ



 


  ภาพรีวิวใช้งานจริงจากกล้องติดในห้องโดยสาร VIOFO A139 กับกล้องติดรถยนต์ VIOFO T130





สำหรับกล้องติดในห้องโดยสารนั่นจะเห็นว่าของ VIOFO A139 จะดูมีสีสันที่สดใสมากกว่า VIOFO T130 ระดับหนึ่ง เพราะว่า VIOFO A139 ใช้เซนเซอร์ Sony STARVIS IMX291 ส่วน VIOFO T130 ใช้เซนเซอร์ OV OS02C10 ซึ่งก็เป็นแค่ในเรื่องสีสันเท่านั้น แต่ในเรื่องของความคมชัดและสว่างก็ถือว่าใกล้เคียงกัน ส่วนภาพในตอนกลางคืนของ VIOFO A139 บันทึกได้ดีกว่า VIOFO T130 เช่นเดียวกันเพราะ VIOFO A139 มีไฟอินฟราเรดในตัวถึง 6 ดวงแต่ VIOFO T130 มีให้แค่ 4 ดวงเท่านั้นค่ะ





  ช่องทางการสั่งซื้อ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้