Last updated: 4 พ.ค. 2565 | 5313 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับ กล้องติดรถยนต์ VIOFO เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักไม่มากก็น้อยกันอย่างแน่นอน เพราะตัวนี้เขามีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศทางยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปลักษณ์ และเรื่องการทำงาน ซึ่งก็ทำได้ออกมาดีเลยทีเดียวค่ะ แต่ว่าวันนี้ทางเราไม่ได้จะมาคุยเรื่องคุณสมบัติ หรือ สอนการใช้งาน อะไรนะคะ แต่ทางเราจะมาตอบคำถามที่หลายคนสงสัยแต่ก็ไม่เคยที่จะได้คำตอบสักเท่าไรนะคะ ซึ่งคำถามนั่นก็คือ
1. กล้องติดรถยนต์ VIOFO แต่ละรุ่นขณะที่เปิดใช้งานจะกินไฟเท่าไร?
2. กล้องติดรถยนต์ VIOFO ถ้าใช้โหมดบันทึกตอนจอดและไม่ได้สตาร์ทรถเลยเป็นเวลานาน ๆ จะกินไฟจาดแบตเตอรี่เท่าไรและใช้งานได้นานกี่วัน??
ซึ่งถ้าใครอยากรู้แล้วว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรก็ตามไปดูกันเลยค่ะ
1. กล้องติดรถยนต์ VIOFO แต่ละรุ่นขณะที่เปิดใช้งานจะกินไฟเท่าไร?
สำหรับคำถามนี้ กล้องติดรถยนต์ VIOFO แต่ละรุ่นขณะที่เปิดใช้งานจะกินไฟเท่าไร? ในที่นี้คนถามน่าจะหมายถึงการกินไฟ หรือ การกินพลังงานจากแบตเตอรี่ในรถยนต์นะคะ ว่าถ้าเปิดใช้งานกล้องติดรถยนต์ VIOFO แล้วจะกินพลังงานจากแบตเตอรี่หรือไม่ แล้วถ้ากินพลังงานจะกินพลังงานไปเท่าไร ประมาณนี้นะคะ สำหรับคำถามนี้อันแรกเลยเราต้องดูก่อนว่าเราใช้ งานกล้องติดรถยนต์แบบไหนระหว่าง
ใช้กล้องติดรถยนต์ VIOFO โดยใช้สายชาร์จกล้องหน้า เสียบเข้ากับช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์
ใช้กล้องติดรถยนต์ VIOFO โดยใช้สาย HK3 ต่อตรงเข้ากับฟิวส์แท็บในรถยนต์
ซึ่งทั้ง 2 แบบมันก็มีจุดที่เหมือนและก็จุดที่แตกต่างกัน
จุดเหมือน คือ ถ้าใช้งานกล้องติดรถยนต์ VIOFO ในขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่มันจะไม่กินพลังจากแบตเตอรี่ค่ะ
จุดแตกต่าง คือ สำหรับคนที่ ใช้กล้องติดรถยนต์ VIOFO โดยใช้สายชาร์จกล้องหน้า เสียบเข้ากับช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์ เมื่อดับเครื่องยนต์ไฟมันจะตัดให้อัตโนมัติค่ะ แต่ก็จะมีรถยนต์บางรุ่น ที่เมื่อดับเครื่องยนต์ไปแล้วแต่ไฟจากช่องจุดบุหรี่ไม่ถูกตัด เช่น รถยนต์ทางยุโรป ซึ่งเราจะต้องเป็นคนดึงสายชาร์จกล้องออกเอง หรือ มีอีกวิธี ก็คือต่อตรงโดยใช้สาย HK3 เพราะเลือกช่องฟิวส์ที่จะต่อตรงได้ ก็ให้เลือกช่องฟิวส์ที่ตัดไฟเองอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์แค่นี้ไฟมันก็จะตัดการทำงานให้อัตโนมัติค่ะ
แต่สำหรับคนที่ ใช้กล้องติดรถยนต์ VIOFO โดยต่อตรงด้วยสาย HK3 เข้ากับฟิวส์แท็บในรถยนต์ ในส่วนนี้จะพูดถึงกรณีที่เลือกต่อตรงที่ช่องฟิวส์ที่จ่ายไฟตลอด 24 ชม.นะคะ ถ้าเลือกช่องนี้แน่นอนว่าต่อให้ดับเครื่องยนต์ไปแล้วกล้องจะยังทำงานอยู่โดยการใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. และการทำงานในส่วนนี้ก็จะดึงไฟจากแบตเตอรี่มาใช่นั่นเองค่ะ ซึ่งตารางการกินพลังงานในแบตเตอรี่ของกล้องติดรถยนต์ VIOFO ก็จะมีดังต่อไปนี้ค่ะ
ตารางข้อมูลการใช้พลังงานของกล้องติดรถยนต์ VIOFO รุ่น A129 Pro Duo, A129 Duo, A119V3, A119V2, และ WR1
Remark: วิธีการคำนวณ : A=w/V
กระแสไฟฟ้า (Electric current) คือ ปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจร มีหน่วยเป็นแอมแปร์ (A)
แรงดันไฟฟ้า (Voltage) คือ ขนาดของแรงดันไฟฟ้าที่ต้องใช้งาน มีหน่วยเป็นโวลต์ (V)
กำลังไฟฟ้า (Power) คือ พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานจริง ๆ มีหน่วยเป็นวัตต์ (w)
จากตารางตรง แรงดันไฟฟ้า 12V ตรงนี้ไม่ได้หมายความว่า กล้องติดรถยนต์ VIOFO จะใช้งานได้จะต้องใช้แรงดันไฟ 12V นะคะ แต่แรงดันไฟฟ้า 12V ตรงนี้ คือ ค่าแรงดันไฟฟ้ามาตรฐานของแบตเตอรี่ในรถยนต์ที่ปกติจะอยู่ประมาณที่ 12-12.8V นั่นเองค่ะ ซึ่งแรงดันไฟฟ้าที่กล้องติดรถยนต์ VIOFO นำมาใช้งานจริง ๆ แบบเสียบสายชาร์จแล้วกล้องติดรถยนต์ใช้งานได้จะจะอยู่ที่ 5V เหมือนกับตอนที่เราชาร์จแบตมือถือนั่นเองค่ะ และตัวที่แปลงไฟ 12V จากช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์ให้เหลือ 5V ก็คือหัวชาร์จ Adapter และ สาย HK3 นั่นเองค่ะ
2. กล้องติดรถยนต์ VIOFO ถ้าใช้โหมดบันทึกตอนจอดและไม่ได้สตาร์ทรถเลยเป็นเวลานาน ๆ จะกินไฟจาดแบตเตอรี่เท่าไรและใช้งานได้นานกี่วัน??
ก่อนที่เราจะไปดูว่า กล้องติดรถยนต์ VIOFO ถ้าใช้โหมดบันทึกตอนจอดไม่ได้สตาร์ทรถเลยจะใช้ได้นานกี่วัน และใช้พลังงานเท่าไร เราต้องรู้ก่อนว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของเราเป็นแบบไหน หลักการทำงานเป็นยังไง และมีกี่แอมป์ เพื่อที่เราจะได้คำนวณคร่าว ๆ ได้ว่าจะใช้งานได้กี่วันและใช้พลังงานไปเท่าไรค่ะ
วิธีดูขนาดเครื่องยนต์และเลือกใช้แบตเตอรี่รถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ยกตัวอย่าง : ใช้รถเก๋งธรรมดา ญี่ปุ่น เครื่อง 2000 CC ใช้แบตเตอรี่รถยนต์ ขนาด 60 แอมป์ – 75 แอมป์ และใช้กล้องติดรถยนต์ VIOFO รุ่น A129 Pro Duo ที่ใช้โหมดบันทึกตอนจอดแบบ Time Lapse 1 นาที แรงดันไฟฟ้าที่ใช้ คือ 5V กระแสไฟฟ้าที่ใช้ คือ 0.35 A และกำลังไฟฟ้าที่ใช้ คือ 4.2 w
วิธีคำนวณ : แบตเตอรี่รถยนต์ 12V ขนาด 60A ถ้าใช้งานโหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. โดยที่ไม่ได้สตาร์ทรถยนต์ไปไหน เลยกล้องติดรถยนต์ VIOFO จะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์มาใช้ได้นานประมาณ 60A/0.35A = 171.42 ชม. หรือ ประมาณ 7 วัน (แต่ตอนใช้งานจริงอาจจะไม่ถึง 7 วัน เพราะมันขึ้นอยู่กับหลักการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ในรยนต์ด้วย) และจะใช้พลังงานในแบตเตอรี่ตกวันละประมาณ 4.2w x 171ชม. = 718w นั่นเองค่ะ
สำหรับตรงที่บอกว่าใช้งานได้ประมาณ 7 วัน ในที่นี้หมายความว่าถ้าภายใน 1-7 วันนี้ ถ้าไม่ได้สตาร์ทรถยนต์เลย บวกกับเปิดใช้งานโหมดบันทึกตอนจอด 24ชม.ไว้ตลอด กล้องติดรถยนต์ VIOFO มันจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์จนถึงจุดตัดการทำงาน แน่นอนว่าพอมันตัดการทำงาน มันก็ใช้งานโหมดบันทึกตอนจอดตอนจอด 24ชม.ไม่ได้เพราะมันถูกตัดไม่ให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แล้ว คือมันไม่ได้หมายความว่าจะใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. ของ กล้องติดรถยนต์ VIOFO ได้แค่ 7 วันเท่านั้น
และหลังจากนั้นก็จะไม่สามารถใช้งานโหมดบันทึกตอนจอด 24ชม.ของ กล้องติดรถยนต์ VIOFO ได้อีกเลย แบบนี้คือไม่ใช่นะคะ ถ้าเมื่อไร่ที่เราชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ เราก็จะกลับมาใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. ของกล้องติดรถยนต์ VIOFO ได้เหมือนเดิมปกติค่ะ
และถ้าใครที่ไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์ จอดรถยนต์ไว้ในที่ปลอดภัย เช่น ในบ้าน และจอดทิ้งไว้นาน หลายวันติดต่อกัน โดยที่ไม่ได้สตาร์ทรถยนต์ขับไปไหนเลย ก็จะแนะนำให้ปิดโหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. ค่ะ (สามารถปิดได้ที่แอพ VIOFO ในมือถือ หรือ จะปิดที่เมนูการใช้งานที่กล้องติดรถยนต์ได้เลย) เพราะถ้าเมื่อไรที่เราจอดรถยนต์ทิ้งไว้นาน ๆ แบบไม่สตาร์ทรถยนต์เลย มันมีโอกาสที่แบตเตอรี่รถยนต์จะหมด จนทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติด
และยิ่งถ้าต้องจ่ายไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์ให้กล้องติดรถยนต์ใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. ตลอด ทุก ๆ วัน บวกกับไม่ได้สตาร์ทรถยนต์หรือขับไปไหนเลยแล้วด้วย ก็จะยิ่งทำให้แบตเตอรี่รถยนต์นั่นหมดเร็วขึ้น เพราะว่าตอนที่รถยนต์ไม่ได้ติดเครื่องยนต์ ไดชาร์จรถยนต์จะไม่สามารถปั่นไฟเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่รถยนต์ได้
แต่ถ้าภายใน 1-7 วันสตาร์ทรถยนต์หรือใช้รถยนต์ ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น แถมยังใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. ในกล้องติดรถยนต์ได้ตลอดอีกด้วย โดยที่เราไม่ต้องคอยกังวลว่าจะต้องคอยไป เปิด/ปิด โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม.นั่นเองค่ะ
1. ใช้งานโหมดบันทึกตอนจอดไม่ต่อเนื่อง เพราะไฟจากแบตเตอรี่ต่ำกว่าที่กำหนด กล้องติดรถ VIOFO เลยต้องตัดการทำงาน
2. แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม เพราะถ้าไฟในแบตเตอรี่ต่ำบ่อย ๆ แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมนั่นเอง
3. เสี่ยงที่ไดชาร์จรถยนต์จะพัง แน่นอนว่าถ้าไม่สตาร์ทรถเลยไดชาร์จก็จะเสื่อมและพังได้ในที่สุด
เพราะฉะนั้น ภายใน 1-7 วันเราควรสตาร์ทรถยนต์ หรือ ขับรถยนต์ออกไปข้างนอกบ้างค่ะ เพื่อที่ไดชาร์จรถยนต์จะได้ทำหน้าที่ปั่นไฟเข้ามาเก็บไว้ในแบตเตอรี่รถยนต์เรื่อย ๆ เพื่อที่แบตเตอรี่รถยนต์จะได้มีไฟใช้อยู่ตลอดเวลา และเมื่อมีไฟใช้อยู่ตลอดเวลา เราก็จะใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. ได้ตลอดไปเช่นเดียวกัน รวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ก็จะไม่เสื่อมสภาพ ไดชาร์จรถยนต์ก็จะไม่พัง รถยนต์ก็จะไม่เจอปัญหารถสตาร์ทไม่ติดด้วยนั่นเองค่ะ
ปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติด:
เกิดจากการที่ เราไม่ค่อยสตาร์ทรถเลย ไม่ได้ค่อยขับรถออกไปไหนเลย จอดรถยนต์ไว้เฉย ๆ นาน ๆ ติดต่อกันหลายวัน ก็จนทำให้ไดชาร์จรถยนต์เสียรถยนต์ก็เลยสตาร์ทไม่ติด
เกิดจากการใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. บวกกับไม่ได้สตาร์ทรถไปไหนเลยเช่นเดียว จนทำให้กล้องติดรถยนต์ดึงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้จนหมด (บางรุ่น) เลยทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติดเพราะไม่มีพลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์รถยนต์ก็เลยสตาร์ทไม่ติด
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน วิธีแก้ก็คือ ต้องสตาร์ทรถยนต์ และใช้งานรถยนต์บ้าง เพียงเท่านี้ก็จะไม่เกิดปัญหารถยนต์สตาร์ทไม่ติดแล้วค่ะ
ทำไมกล้องติดรถยนต์ VIOFO ถึงใช้คำว่า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์จนถึงจุดตัดการทำงาน
ที่ใช้คำว่า "ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่รถยนต์จนถึงจุดตัดการทำงาน" ก็เพราะว่า แบตเตอรี่ของรถยนต์ที่ กล้องติดรถยนต์ VIOFO ดึงมาใช้งานตอนใช้โหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม. มันไม่ได้หมดนั่นเองค่ะ เพราะว่า ที่สายชาร์จของ กล้องติดรถยนต์ VIOFO เขาจะมีระบบช่วยตัดไฟให้อัตโนมัติค่ะ ถ้าเกิดพลังงานของแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ ต่ำกว่าค่าที่เขากำหนดไว้ มันก็จะตัดการทำงานเลยทันที มันเลยทำให้แบตเตอรี่ของรถยนต์ จะไม่หมดเกลี้ยงคือยังพอมีเหลืออยู่พอที่จะสตาร์ทรถยนต์แล้วปล่อยให้ไดชาร์จปั่นไฟมาเก็บไว้และใช้งานได้อย่างต่อเนื่องได้นั่นเองค่ะ
ช่องทางการสั่งซื้อ