สุดแปลกกับ10สิ่งที่คนขับรถ รู้ทั้งรู้ว่าทำแล้วจะ “เกิดอุบัติเหตุ” แต่ก็ยังทำ!!

ทุกวันนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อุบัติเหตุรถชน กันนั้น เกิดขึ้นแทบจะ ทุกวัน เลย ซึ่งจริง ๆ เราคิดว่าก็เกิดขึ้นทุกวันเลยเนี่ยแหละ แต่แค่เราไม่รู้เท่านั้นเองเพราะอุบัติเหตุบางอุบัติเหตุก็ไม่ได้เป็นข่าว เราก็เลยไม่รู้ และเมื่อไรที่เกิดอุบัติเหตุมันมักจะตามมาด้วยความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นเสียชีวิต เสียเงินทอง เสียรถ หรือ อาจจะไม่ได้เสียชีวิตแต่ว่าพิการไปตลอดชีวิตอะไรแบบนี้แทนนะ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนเนี่ย 100 ทั้ง 100 ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นแน่นอน ไม่มีใครอยากเสียเงิน ไม่มีใครอยากพิการ ไม่มีใครอยากเสียชีวิตนะคะ

แต่ว่า!! คนเราเนี่ยแปลก และก็มีความย้อนแย้งในตัวเองสูงมากด้วยเช่นเดียวกัน “คือแบบฉันไม่ชอบการสูญเสียเลยนะ แต่ฉันก็ชอบทำในสิ่งที่ทำแล้วเกิดการสูญเสียเหมือนกันนะ” แบบหะ? อะไรนะ? ฟังแล้วก็งง ๆ แต่ก็เป็นเรื่องจริงค่ะ แล้วเป็นเรื่องจริง ยังไงไปดูกัน




1.ขับรถเร็ว

ขับรถเร็วจะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ชอบมาก เพราะมันท้าทายดี แฮร่ ไม่ใช่นะคะ เพราะมันถึงที่หมายเร็วดี ประหยัดเวลา ทำให้เรามีเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น หรือบางคนที่ขับรถเร็วก็คือไม่ทันเวลาแล้ว รีบก็เลยต้องขับรถเร็วอะไรแบบนี้

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การขับรถก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีค่ะ เวลาเราขับรถเราต้องมีความยืดหยุ่น คือขับรถเร็วได้แต่ก็ควรสลับกับช้าและก็ต้องดูสถานการณ์ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ




2.เมาแล้วขับ

เมาแล้วขับ ซึ่งเราก็จะรู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า คนเราเวลาเมา เขาก็จะมีความกล้า บ้าบิ่น อยู่ในตัวสูงมาก ไม่รู้ไปเอาความกล้ามาจากไหน โดยเฉพาะคนที่เมาจริง ๆ เมาแบบไม่มีอะไรมาขวางกัน คือเขาจะมั่นใจมาก ว่าเขาสามารถขับรถกลับบ้านเองได้ ทั้ง ๆ ที่แค่ยืนก็ไม่ไหวแล้วนะ ดังนั้นนะคะ เมื่อไหร่ที่เรารู้ตัวว่าเราจะไปเมาให้มันเต็มคราบเราก็ควรพกคนที่จะสามารถขับรถพาเรากลับบ้านได้อย่างปลอดภัยไปด้วยนะคะ




3.ง่วงนอนแล้วขับ

ปกติเวลาเราง่วงนอนตอนขับรถ ส่วนใหญ่เราก็จะดื่มกาแฟ หรือ เครื่องดื่มที่ทำให้เราตื่นตัวกันใช่มั้ย แต่ถ้าใครไม่ดื่มก็ควรเลือกที่จะหยุดรถแล้วนอนหลับก่อนแทนนะ ไม่ใช่ว่าง่วงก็ง่วง กาแฟก็ไม่ดื่ม แต่ก็ยังฝืนที่จะขับรถต่อไป ถึงใจลึก ๆ ของเราจะบอกว่าไม่เป็นไรไหว แต่จริง ๆ มันไม่ไหวนะ มันจะทำให้เราหลับในค่ะ ถึงเป็นการหลับในแค่เสี้ยววินาที ก็ทำให้หลายคนเสียชีวิตกันมาเยอะแล้วนะคะ




4.ขับรถย้อนศร

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ขับรถย้อนศร ก็เพราะว่าระยะทางตรงที่ย้อนศรมันสั้นกว่าระยะทางปกติ มันไม่ต้องใช้เวลามากก็ไปถึงที่หมายแล้ว ตัดภาพไปที่ถ้าเกิดขับรถไปตามเส้นทางปกติ แบบเราต้องไปขึ้นสะพานก่อน แล้วค่อยกลับรถมาอีกที แล้วก็ติดไฟแดงอีกรอบ ถึงจะถึงที่หมาย คือมันช้ามาก เราจะมองว่ามันเสียเวลาแถมเปลืองน้ำมันอีก ซึ่งมันก็จริงนะ แต่ว่ายังไงการขับรถย้อนศร มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอยู่ดีนะ นอกจากจะผิดกฎจราจรแล้ว มันยังทำให้คนอื่นเขาได้รับความเดือดร้อนด้วยนะคะ




5.ผ่าไฟแดง

จุดเริ่มต้น ของการผ่าไฟแดง ก็น่าจะมาจากการ การผ่าไฟเหลืองเนี่ยแหละ ซึ่งสัญญาณไฟจราจรสีเหลือง มันคือสัญญาณที่บอกให้ คนที่ขับเตรียมหยุดรถเพื่อที่จะต้องติดไฟแดง แต่ก็ไม่ค่อยเห็นมีใครทำตามกันนะ ส่วนใหญ่ก็จะแบบพอเห็นไฟเหลืองปุ๊บก็เหยียบคันเร่งปั๊บทันที “แบบฉันจะต้องเป็นผู้รอดจากการติดไฟแดงนี้” แถมมีคิดต่อด้วยนะว่าไฟสีเหลืองควรจะนานกว่าหรือเปล่าอันนี้มันสั้นเกินไป

บางทีเราอาจจะต้องตั้งสติใหม่นะคะ ถ้ายังทำแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ วันหนึ่งเราอาจจะกลายเป็นคนโชกเลือด แทน คนโชคดี ก็ได้นะคะ




6.แซงทางโค้ง

ซึ่งหลายคนเลยนะคะ ที่ชอบแซงทางโค้ง อารมณ์แบบ แซงทางตรงก็แซงมาแล้วทำไมจะแซงทางโค้งไม่ได้ “รถก็ออกจะแรงจะไม่ให้แซงทางโค้งได้ยังไง” คือถ้าเป็นการแซงทางโค้งที่รถขับกันไปในทิศทางเดียวกัน มันก็พอจะแซงกันได้อยู่นะ แต่พอมาเป็นทางโค้งที่มีรถขับสวนกันไปมาแบบนี้มันไม่ควรทำ จริง ๆ ต้องห้ามทำเลยเนี่ยแหละคะ คือถ้าตอนที่เรากำลังแซงแล้วมีรถส่วนมาพอดี เราจะทำอะไรไม่ได้แล้วนะนอกจากชน หรือไม่ก็หักลบ แต่ไม่ว่าจะทางไหนยังไงก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุอยู่ดีค่ะ




7.ขับเบียดและแย่งช่องทางขับรถ

สำหรับขับเบียดและแย่งช่องทางขับรถ เราจะเจอบ่อยในช่วงที่รถติดเยอะ ๆ ทุกคนก็แบบต้องการที่จะไป ก็จะเบียดแย่งช่องทางขับรถกันไปมา บางคนมีมารยาทก็เปิดไฟขอทางถ้าเขาให้เราแทรกเราก็แทรก แต่ถ้าเขาไม่ให้เราแทรกเราก็ไม่แทรกก็ได้

แต่บางคนไม่เลยนะ ไม่มีแม้กระทั่งเปิดไฟขอทาง หรือ อาจจะเปิดไฟขอทางแทรกแล้ว แต่เขาไม่ให้ แต่ไม่ฉันจะแทรก ฉันต้องการไปใครจะทำไม เผลอ ๆ ตอนแทรกอาจจะคาบกระจกรถเขาไปกินอีกตังหากนะคะ แบบนี้ก็มีนะคะ แล้วสุดท้ายก็เกิดเป็นอุบัติเหตุไป




8.ขับปาดหน้ารถ

อันนี้บอกเลยเห็นบ่อยมาก บางคันอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปาด แต่ว่าเว้นระยะผิดก็เลยดูเหมือนปาดอันนี้พอเข้าใจได้ แต่บางคันไม่เลยนะ ดูยังไงก็ตั้งใจที่จะปาดชัด ๆ ปาดแล้วปาดอีก ปาดจนคันที่โดนปาดเนี่ยทนไม่ไหว แบบ ปาดมาปาดกลับไม่โกง ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่นะ ว่าไม่ควรทำแต่ใจมันมา มันต้องได้รู้ว่าฉันก็ไม่ยอมเหมือนกันนะ

ซึ่งอยากบอกว่า ถ้าใครที่เจอกรณีแบบนี้อย่าไปเอาคืนโดยการปาดกลับเด็ดขาดนะคะ เพราะมันได้ไม่คุ้มเสียอยู่แล้ว แต่ถ้าใครมีกล้องติดรถยนต์อันนี้หวานหมูเลย ให้เอาคลิปที่ได้จากกล้องไปโพสต์ลง Social ประจานได้เลย ให้เขาได้รู้ว่าพลังแห่ง Social มันน่ากลัวขนาดไหน




9.ใช้มือถือตอนขับรถ

สำหรับการใช้มือถือตอนขับรถนี่เหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วนะ บางคนก็คือใช้มือถือทำงานตอนขับรถเลย เช่น โทรคุยกับลูกค้า แชทคุยกับลูกค้า หรือบางคนก็ใช้เล่นเกม ใช้เล่น Social Media ต่างๆ นานา ตอนขับรถ และต้องเป็นตอนขับรถด้วยนะไม่งั้นไม่ได้อรรถรส ล้อเล่นค่ะ จริง ๆ ก็เข้าใจว่าบางกรณีมันก็เลี่ยงไม่ได้ แบบลูกค้าโทรมาไม่รับสายนี่เสียหายหลายแสน เพราะฉะนั้นถ้าเรารู้ว่าเราต้องมีการคุยกับลูกค้าแบบนี้บ่อย ๆ เราก็ควรที่จะเตรียมพร้อมให้ดี เช่น หูฟัง Bluetooth เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องละสายตาจากการขับมาหามือถือ แบบนี้เป็นต้นค่ะ

10.เปลี่ยนเลนกะทันหัน

ซึ่งการเปลี่ยนเลนกะทันหัน ส่วนใหญ่มักจะมาจาก ลืมไปว่าตัวเองต้องไปเลนนี้ แบบพอนึกขึ้นได้ก็กระชั้นชิดแล้วก็เลยเปลี่ยนเลนเลยทันที หรือ บางคนก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลยแบบเปลี่ยนเพราะแค่อยากเปลี่ยนเฉยๆ ไม่ได้สนใจคนอื่นอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม ถ้ามันเป็นการเปลี่ยนเลนกะทันหันแล้วมันทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย โดยส่วนใหญ่ยังไงคนที่เริ่มก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบนั่นเองค่ะ


และนี่ก็คือ 10 สิ่งที่คนขับรถส่วนใหญ่ รู้อยู่แล้วว่าถ้าทำแล้วมันจะเกิดเป็นอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น รถชนรถ รถชนคน รถชนสัตว์ รถชนเสาไฟฟ้า รถชนบ้าน รถชนขอบสะพาน รถชนต้นไม้ และ รถชนอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งจริงอยู่ว่าตอนนี้ยังไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนหน้ามันจะไม่เกิดนะคะ

เพราะฉะนั้น ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ควรทำเราก็อย่าทำ เลี่ยงได้ก็เลี่ยง เวลาขับรถก็ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่อกแว่ก ทำตามกฎจราจร และก็ใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังนั่นเองค่ะ



ช่องทางการติดต่อ