Last updated: 4 พ.ค. 2565 | 10063 จำนวนผู้เข้าชม |
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกล้องติดรถยนต์ไม่ว่าจะเป็น สายต่อตรงคืออะไร, ทำไมภาพที่ได้จากกล้องติดรถยนต์ถึงกระตุก, โหมดบันทึกตอนจอดของกล้องติดรถยนต์มีอะไรบ้าง, กล้องติดรถยนต์ในรถ กับ กล้องติดรถยนต์นอกรถต่างกันอย่างไร,แล้วเมมขนาด 32GB 64GB 128GB บันทึกได้นานกี่วัน, แบตเตอรี่กล้องติดรถยนต์ต้องเลือกขนาดเท่าไร และอีกมากมาย ซึ่งทางเราได้รวบรวมคำถามที่ถูกถามบ่อยๆ มาไว้ในบทความนี้แล้ว ถ้าอยากทราบว่ามีคำถามที่สงสัยหรือไม่ก็เลื่อนอ่านได้เลยค่ะ
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกล้องติดรถยนต์
1. Q: กล้องหลังติดรถยนต์ต้องเสียบสายชาร์จที่ไหน
A: วิธีเสียบสายกล้องหลังติดรถยนต์ คือ ให้เดินเก็บสายกล้องหลังกล้องติดรถยนต์แล้วนำมาเสียบชาร์จที่ตัวกล้องหน้าติดรถยนต์ โดยที่ตัวกล้องหน้าติดรถยนต์จะมีสายชาร์จที่ต่อเข้ากับช่องจุดบุหรี่ ซึ่งกล้องหลังติดรถยนต์จะใช้พลังงานจากกล้องหน้าติดรถยนต์อีกที แต่ก็จะมีกล้องติดรถยนต์ที่ใช้กล้องหน้าติดรถยนต์พร้อมกล้องหลังติดรถยนต์บางรุ่น ที่ใช้ไฟมากกว่ากล้องติดรถยนต์แบบที่เป็นกล้องหน้าติดรถยนต์อย่างเดียว หากเมื่อไรที่เราเลือกใช้กล้องหน้าพร้อมกล้องหลังติดรถยนต์ แล้วบังเอิญมีสายชาร์จอันที่เป็นแบบใช้สำหรับกล้องหน้าติดรถยนต์เพียงอย่างเดียว ตรงนี้อาจจะต้องเปลี่ยนสายชาร์จใหม่ หรือ จะเลือกใช้สายชาร์จที่มากับกล้องติดรถยนต์ก็ได้เพราะถ้าเลือกใช้อันเดิมที่ติดตั้งไว้ ไฟอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้กล้องหน้าหลังติดรถยนต์พร้อมกันนั้นเองค่ะ
เพิ่มเติม : สายชาร์จที่มีมากับกล้องติดรถยนต์จะเป็นสายชาร์จที่จ่ายไฟให้กล้องติดรถยนต์ได้เสถียรมากที่สุดค่ะ
2. Q: สายต่อตรงของกล้องติดรถยนต์คืออะไร
A: สายต่อตรง คือ สายที่ต่อกล้องติดรถยนต์เข้ากับ Fuse Tap ในรถยนต์ เพื่อการเดินเก็บซ่อนสายให้มิดชิดและสวยงามยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องนำสายมาเสียบที่ช่องจุดบุหรี่ในรถอีกต่อไป ทำให้เราเหลือช่องจุดบุหรี่ไว้ชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เช่น ชาร์จมือถือ ชาร์จเครื่องฟอกอากาศในรถ และหากกล้องติดรถยนต์ที่ใช้ มีโหมดบันทึกตอนจอดด้วย การติดตั้งแบบต่อตรงจะทำให้กล้องสามารถใช้โหมดบันทึกตอนจอดและทำงานตอนจอดได้ 24 ชม. ได้อีกด้วยค่ะ
เพิ่มเติม : สายต่อตรงของกล้องติดรถยนต์ต้องซื้อเพิ่มเองไม่มีแถมให้ในชุดอุปกรณ์ค่ะ
3. Q: CPL Filter กล้องติดรถยนต์มีหน้าที่คืออะไร
A: CPL Filter กล้องติดรถยนต์ ทำหน้าที่ ช่วยลดแสงสะท้อนในภาพ ทำให้ภาพที่ได้มีความสว่างและคมชัดมากขึ้น เหมาะกับรถยนต์ที่บริเวณคอนโซลที่รถยนต์มีลวดลายมาก หรือ หน้ารถยนต์ที่มีวัตถุต่างๆ เช่น พระ หรือ ตุ๊กตา วางบนคอนโซลเยอะๆ เงาของวัตถุเหล่านั้นจะสะท้อนไปบนกระจกหน้ารถ ทำให้กล้องติดรถยนต์ถ่ายติดเงามามากกว่าปกติ เลยทำให้ภาพที่ได้จากกล้องหน้าติดรถยนต์ไม่ชัดนั่นเอง ดังนั้น CPL Filter จึงเป็นตัวช่วยที่ช่วยลดแสงสะท้อนได้พอสมควร ซึ่ง CPL Filter เป็นอุปกรณ์เสริมและมีขายเฉพาะในกล้องติดรถบางรุ่นเท่านั้น เช่น VIOFO, Blueskysea เป็นต้นค่ะ
4. Q: สำหรับคนที่ใช้กล้องติดรถมานาน จนแบตเสื่อม มักมีคำถามเสมอว่า กล้องติดรถยนต์ที่ใช้อยู่นั้นต้องใช้แบตเตอรี่ตัวไหน
A: สำหรับข้อนี้ ต้องรบกวนทางลูกค้าแกะดูที่ตัวกล้องติดรถยนต์ จากนั้นเช็ค ความของจุแบตว่ากี่mAh และ ความกว้าง X ความยาวของแบตเตอรี่ว่ามีขนาดเท่าไร จากนั้นเลือกขนาดแบตเตอรี่ที่ใกล้เคียงกับของเดิมให้มากที่สุดค่ะ
เพิ่มเติม : ขนาดแบตต้องไม่ใหญ่กว่าช่องวางแบตในกล้องติดรถยนต์ หากแบตมีขนาดใหญ่กว่า จะทำให้ประกอบเคสกล้องติดรถยนต์กลับไปไม่ได้ค่ะ
5. Q: กล้องติดรถยนต์บันทึกบ้างไม่บันทึกบ้างเกิดจากอะไร
A: กล้องติดรถยนต์ที่ไม่ค่อยบันทึก อาจจะเกิดมาจาก 2 สาเหตุ คือ
1. การตั้งค่ากล้องติดรถยนต์ แนะนำ ให้ปิดเมนู ตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion detection) เพื่อให้กล้องบันทึกต่อเนื่อง ไม่ขาดช่วง
2. เมมโมรี่การ์ดที่กล้องติดรถยนต์ใช้ แนะนำให้เช็คเมมโมรีการ์ด ถ้าว่าเป็นเมมแท้ Class10 หรือไม่ และฟอร์แมตเมมครั้งแรกก่อนใช้งานค่ะ
6. Q: กล้องติดรถยนต์รุ่น XXX มีระบบบันทึกวนลูปไหม
A: สำหรับกล้องติดรถของทางร้าน Rizer ทุกรุ่น มีฟังก์ชันบันบันทึกวนลูป (Loop recording) ซึ่งสามารถตั้งความยาวคลิปที่บันทึกได้ โดยไปที่เมนู Loop recording ยกตัวอย่าง ตั้งไว้ที่ 3 นาที กล้องติดรถยนต์ จะบันทึกวิดีโอคลิปละ 3 นาที เมื่อเมมเต็ม กล้องติดรถยนต์จะลบคลิปแรกสุดออก แล้วบันทึกคลิปใหม่วนทับไปเรื่อยๆ ค่ะ
7. Q: กล้องติดรถยนต์ไม่บันทึกวิดีโอ ขึ้นว่าเมมมีปัญหาแต่เมมพึ่งซื้อมาใหม่เป็นเพราะอะไร
A: เมมโมรีการ์ดอาจจะไม่ใช่เมม Class 10 ของแท้ เลยทำให้สปีดการเขียนข้อมูลต่ำเลยเขียนไฟล์วิดีโอที่ขนาดไฟล์ใหญ่ๆ ไม่ได้เหมือนเมม Class 10 ของแท้
เพิ่มเติม : การใช้งานกล้องติดรถยนต์ครั้งแรกจะต้องฟอร์แมตเมมในกล้องที่เมนู Format ก่อนทุกครั้ง หากเป็นเมมเก่าแนะนำให้นำมาฟอร์แมตเมมในคอมก่อนแล้วค่อยนำกลับไปใช้ ไม่อย่างนั้นจะใช้งานกล้องติดรถยนต์ไม่ได้ค่ะ
8. Q: ทำไมภาพกลางคืนที่ได้จากกล้องติดรถยนต์ถึงมีความมืดกว่าในคลิปที่ดูในรีวิว
A: ตรงนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความมืดของฟิล์มติดกระจกรถยนต์, ไฟทาง, ไฟรถ, ร่วมถึงการตั้งค่าเมนูความสว่างในกล้องติดรถยนต์ ถ้าต้องการให้ภาพสว่างมากขึ้น สามารถเปิดไปที่เมนู WDR/HDR หรือ ปรับค่า EV เพิ่มมากขึ้นเพื่อชดเชยแสงได้
เพิ่มเติม : หากปรับเพิ่มแสง EV มากเกินไป อาจจะทำให้วิดีโอที่บันทึกได้เกิด Noise ซึ่งNoise คือ สัญญาณรบกวนที่เกิดขึ้นในวิดีโอ ทำให้วิดีโอที่บันทึกได้จะมีความเบลอและไม่ชัดนั่นเองค่ะ
9. Q: ทำไมต้องเลือกใช้เมมของแท้ Class 10 ขึ้นไปสำหรับใช้ในกล้องติดรถยนต์
A: เพราะเมม Class 10 มีสปีดการเขียนและอ่านข้อมูลสูง เหมาะกับงานที่เกี่ยวกับวิดีโอ ซึ่งเราไม่ควรเลือกใช้เมมที่ต่ำกว่า Class10 และไม่ควรเลือกใช้เมมของปลอมด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะมีหน้าตาที่เหมือนกัน แต่คุณภาพไม่เหมือนกันแน่นอน และเมมปลอมมักจะขายในราคาถูกกว่าของแท้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการใช้เมมปลอมจะส่งผลให้การบันทึกวิดีโอติดขัด หรือ ทำให้กล้องติดรถยนต์ error ค้างได้ รวมถึงวิดีโอในกล้องติดรถยนต์อาจจะไม่บันทึกวนลูปได้ด้วยเช่นกันค่ะ
10. Q: เอาเมมไปเปิดดูในคอมแล้ววิดีโอกระตุกเกิดจากอะไร
A: อาจจจะเกิดจาก 3 สาเหตุ คือ
1. เปิดไฟล์จากเมมโมรี่การ์ดโดยตรง โดยใช้สาย USB Data หรือ ตัวอ่านการ์ด ที่ความเร็วในการอ่านไม่พอ เลยทำให้ส่งข้อมูลไม่ทัน ไฟล์จึงกระตุก แนะนำให้ Copy วิดีโอลงในคอมก่อนแล้วเปิดไฟล์จากไดรฟ์ในคอมแทนค่ะ
2. เมมโมรี่การ์ดที่ใช้สปีดการเขียนต่ำ อาจจะไม่ใช่ class10 ของแท้ เลยทำให้วิดีโอกระตุก เนื่องจากเขียนข้อมูลลงเมมไม่ทันค่ะ
3. กล้องติดรถยนต์อาจจะเปิดเมนู Time lapse ไว้ เลยทำให้วิดีโอที่ได้จะเป็นแบบเร่งความเร็วค่ะ
11. Q: ฟังก์ชัน Motion Detection ในกล้องติดรถยนต์ควรปิดหรือเปิดดี
A: แนะนำให้ปิด Motion Detection ในกล้องติดรถยนต์เพราะถ้าเปิดไว้จะทำให้กล้องติดรถยนต์บันทึกวิดีโอไม่ต่อเนื่อง เช่น หยุดบันทึกเวลาจอดติดไฟแดง เวลาจอดรอคน ถ้ามีเหตุการณ์อุบัติเหตุเกิดขึ้นกะทันหัน กล้องติดรถยนต์อาจจะเริ่มบันทึกภาพไม่ทัน ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์ที่ไปที่มาก่อนชน แต่ถ้ากล้องติดรถยนต์มีโหมดบันทึกตอนจอด สามารถเข้าไปตั้งค่าในโหมดนี้ โดยเลือกให้บันทึกตอนจอดแบบ motion detection หรือบันทึกเฉพาะเมื่อพบสิ่งเคลื่อนไหวได้ค่ะ
เพิ่มเติม : ต้องติดตั้งกล้องติดรถยนต์แบบต่อตรงเข้าฟิวส์แท็บ และกล้องต้องมีโหมดบันทึกตอนจอดแบบ Advance parking mode เช่น VIOFO ค่ะ
12. Q: กล้องติดรถยนต์ที่ไม่จำวันที่เกิดจากอะไรได้บ้าง
A: กล้องติดรถยนต์ไม่จำวันที่ มักจะมาจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม หรือ ถ้าใช้กล้องติดรถยนต์แบบใช้คาปาซิเตอร์ แล้วจอดรถนานๆ ติดต่อกันหลายวัน คาปาซิเตอร์จะคายประจุทั้งหมด ซึ่งหมดไวกว่าแบตเตอรี่ เลยทำให้วันที่และเวลาไม่ตรง แต่ถ้ากล้องติดรถยนต์มี GPS ตัว GPS จะตั้งค่าวันที่และเวลให้อัตโนมัติค่ะ
อีกกรณีหนึ่งที่อาจจะเกิดก็คือสำหรับกล้องติดรถยนต์ที่มี GPS มาอยู่แล้ว แต่ตั้งค่า Time zone ผิด ไม่ได้ตั้งเป็น GMT+7 ก็เลยทำให้วันที่และเวลาไม่ตรงกับประเทศไทยนั่นเองค่ะ
13. Q: Format เมมกล้องติดรถยนต์ในคอมต้องเลือก File system เป็นแบบไหน
A: สำหรับเมมขนาด 8-32GB เลือก File system เป็น FAT32 ส่วน เมมขนาด 64GB ขึ้นไป ให้เลือก File system เป็น exFAT ค่ะ
14. Q: วิดีโอที่บันทึกในกล้องติดรถยนต์ที่บันทึกได้ เร็วกว่าความจริง และ กระตุก เกิดจากอะไร
A: อาจจะเกิดจากการเลือกการบันทึกวิดีโอในกล้องติดรถยนต์เป็นแบบ Time Lapse ค่ะ
15. Q: เมนู Time zone ในกล้องติดรถยนต์ควรตั้งเป็นเท่าไร
A: Time zone ในประเทศไทย ให้ตั้งค่าเป็น GMT+7 ค่ะ
16. Q: รถยนต์รุ่น XXX ตอนจอดกล้องติดรถยนต์ไม่หยุดทำงาน แก้ไขยังไง
A: ปัญหานี้จะเกิดกับรถยนต์ทางยุโรปบางรุ่น เช่น ฟอร์ด ตอนดับรถยนต์แล้วช่องจุดบุหรี่จะยังคงจ่ายไฟอยู่เลยทำให้กล้องติดรถยนต์ไม่ตัดการทำงาน ในกรณีนี้ต้องดึงสายชาร์จออกเอง หรือ เปลี่ยนมาติดตั้งกล้องติดรถยนต์แบบ Fuse Tap ค่ะ
17. Q: กล้องติดรถยนต์ใช้แบตเตอรี่ กับ กล้องติดรถยนต์ใช้คาปาซิเตอร์ แตกต่างกันอย่างไร
A: ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า แบตเตอรี่และคาปาซิเตอร์ คือ แหล่งจ่ายพลังงานให้กับกล้องติดรถยนต์ เพื่อเซฟไฟล์ในกรณีฉุกเฉิน และเลี้ยงกล้องติดรถให้ทำงานต่อได้อีกเพียงไม่กี่วินาทีหลังจอดรถ เพื่อบันทึกไฟล์วิดีโอสุดท้ายให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียดังรูปด้านบนค่ะ
18. Q: กล้องติดรถยนต์ควรใช่เมมขนาดเท่าไร
A: ขนาดเมมที่จะใช้ในกล้องติดรถยนต์จะขึ้นอยู่กับความละเอียดในการบันทึกของกล้องติดรถยนต์แต่ละรุ่น ซึ่งคร่าวๆ ดังรูปด้านบนค่ะ
19. Q: ควรเลือกกล้องติดรถยนต์แบบมีหน้าจอ หรือ กล้องติดรถยนต์แบบไม่มีหน้าจอ แบบไหนดี
A: ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวกงใช้งานกล้องควบคู่ไปกับมือถือแนะนำให้เลือกใช้กล้องแบบที่มีหน้าจอค่ะ ซึ่งจุดแตกต่างของกล้องติดรถยนต์ที่มีและไม่มีหน้าจอมีดังรูปด้านบนค่ะ
20. Q: ควรเลือกกล้องหลังติดนอกรถ หรือ กล้องหลังติดในรถ แบบไหนดี
A:
รถกะบะ = แนะนำให้เลือกเป็นกล้องติดนอกรถยนต์
รถเก๋ง = เลือกกล้องติดนอกรถยนต์หรือในรถยนต์ก็ได้
รถตู้ = เลือกกล้องติดนอกรถยนต์หรือในรถยนต์ก็ได้
แต่ถ้าต้องการใช้ฟังก์ชันช่วยถอยจอดแนะนำให้เลือกเป็นกล้องหลังติดนอกรถยนต์เท่านั้น ซึ่งข้อดีข้อเสียของทั้ง 2 แบบมีดังรูปด้านบนค่ะ
21. Q: โหมดบันทึกตอนจอดของกล้องติดรถยนต์มีอะไรบ้าง
A: โหมดบันทึกตอนจอดของกล้องติดรถยนต์แต่ละรุ่นแต่แบรนด์จะแตกต่างกันออกไป ดังรูปด้านบนค่ะ
22. Q: รถยนต์รุ่น XXX ต้องใช้ Fuse Tap อะไร
A: สำหรับข้อมูล Fuse Tap ดังนี้เป็นเพียงข้อมูลบางส่วนเท่านั้น แนะนำให้ตรวจสอบรุ่นของรถรวมถึงประเภท Fuse Tap ของรถยนต์ ที่รถยนต์ หรือ คู่มือรถ อีกครั้งเพื่อความถูกต้องค่ะ ซึ่งข้อมมูลคร่าวๆดังรูปด้านบนค่ะ
บทความตอบคำถามกล้องติดรถยนต์เพิ่มเติม
1. ตอบคำถาม GPS กับ WIFI ของกล้องติดรถยนต์มีไว้เพื่ออะไร??
2. 10 คำถามยอดฮิต กล้องติดรถยนต์ 70Mai Pro Plus+ (70Mai A500s)