Last updated: 4 พ.ค. 2565 | 5742 จำนวนผู้เข้าชม |
กล้องติดรถยนต์ไม่มีหน้าจอ ส่วนมากจะนิยมสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้แสงจากหน้าจอกล้องติดรถยนต์มากระทบสายตา หรือ ต้องการหลีกเลี่ยงเมื่อใช้กล้องติดรถยนต์แล้วเกิดความร้อนที่หน้าจอ หรือ ไม่ต้องการกล้องติดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เมื่อเราตัดสินใจจะซื้อกล้องติดรถยนต์สักรุ่นแล้ว เราก็ต้องการที่จะหาข้อมูล หลายๆ รุ่นมาเปรียบเทียบกันเพื่อใช้ในการตัดสินใจอีกที ซึ่งวันนี้ทางเราจึงนำ 10 กล้องติดรถยนต์ไม่มีหน้าจอ ที่น่าใช้มากที่สุดในปีนี้ ที่มาพร้อมกับตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติมาให้ทุกคนได้ศึกษาหาข้อมูล ซึ่งต้องขอบอกก่อนว่ากล้องติดรถยนต์ไม่มีหน้าจอ ทั้ง 10 รุ่นนี้ เป็นกล้องติดรถยนต์ที่มี WIFI มาแล้วในตัวและรองรับการใช้งานผ่านทางแอพของกล้องทุกตัวเพราะเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่กล้องติดรถยนต์ไม่มีหน้าจอต้องมี ร่วมถึงทั้ง 10 ตัวนี้ต้องใช้งานผ่านมือถือด้วยเช่นกัน ไม่งั้นจะไม่สามารถใช้งานกล้องติดรถยนต์ได้นั่นเองค่ะ ซึ่งถ้าใครที่ไม่สะดวกที่จะใช้มือถือร่วมกับกล้องติดรถยนต์ด้วย ทางเราก็ขอแนะนำเป็น 10 อันดับกล้องติดรถยนต์มีหน้าจอ เพราะกล้องติดรถยนต์ที่มีหน้าจอสามารถใช้งานคู่กับมือถือหรือไม่ใช่ก็ได้ค่ะ
10 อันดับกล้องติดรถยนต์ที่ไม่มีหน้าจอ ที่น่าใช้ที่สุดในเวลานี้ ได้แก่
1. กล้องติดรถยนต์ BlueSky sea B1W
2. กล้องติดรถยนต์ Xiaomi 70Mai 1S
3. กล้องติดรถยนต์ DDPai Mola N3
4. กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 3
5. กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 5
6. กล้องติดรถยนต์ AZDOME C9
7. กล้องติดรถยนต์ AZDOME BN03
8. กล้องติดรถยนต์ VIOFO A139
9. กล้องติดรถยนต์ VIOFO WR1
10. กล้องติดรถยนต์ Mobil Cam M6
1. กล้องติดรถยนต์ BlueSky sea B1W
กล้องติดรถยนต์ BlueSky sea B1W หรือ ที่ชาวต่างชาติเรียกว่า Pill Shaped หรือ กล้องติดรถยนต์ทรงแคปซูล ตัวกล้องคมชัด Full HD ใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์ SONY สำหรับกล้องติดรถยนต์ B1W สามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะติดเป็นกล้องหน้า หรือจะ ติดตั้งเป็นกล้องหลัง ก็สามารถทำได้
จุดเด่นที่น่าสนใจ : ตัว กล้องติดรถยนต์ B1W หมุนได้ 360 องศา สามารถหมุนมาถ่ายภาพในห้องโดยสารได้ กรณีที่ติดตั้งเป็นกล้องหลัง กล้องจะกลับภาพให้อัตโนมัติ และยังกลับภาพด้านหลังรถซ้ายขาวให้มองเห็นภาพได้ตามความจริง มีปุ่ม Emergency Lock ที่สามารถกดล็อคไฟล์ได้ด้วยตัวเอง และมีระบบแจ้งเตือนด้วยเสียงทำให้รู้สถานะการทำงานของกล้องให้เราทราบ
จุดสังเกต : กล้องติดรถยนต์ B1W ไม่รองรับGPS และ ไม่รองรับการต่อกล้องหลังค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
2. กล้องติดรถยนต์ Xiaomi 70Mai 1s
กล้องติดรถยนต์ Xiaomi 70Mai 1s เป็นกล้องติรถยนต์ในแบรนด์ 70Mai ที่ไม่มีหน้าจอเหมือนกับ 70Mai M300 ซึ่งมีรูปทรงเป็นทรงกระบอกเหมือนกัน มีขายึดกล้องเป็นแผ่นกาว 3M VHB ที่ป้องกันการหลุดร่วงได้ดี สามารถลอกสติกเกอร์ออกและแปะที่กระจกรถได้เลยทันที ติดแล้วเนียนไปกับรถแน่นอน เพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัดกำลังพอดี ไม่เกะกะสายตา ตัวกล้องคมชัด Full HD ใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์ SONY ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัด
จุดเด่นที่น่าสนใจ : กล้องติดรถยนต์ Xiaomi 70Mai 1s รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Take Picture กับ Record Video แต่รองรับเสียงภาษาอังกฤษเท่านั้น และในชุดอุปกรณ์ยังแถมฟรีแผ่นฟิล์มป้องกันรอยกาวจากฐานกล้องติดรถยนต์ให้ด้วย
จุดสังเกต : กล้องติดรถยนต์ Xiaomi 70Mai 1s ไม่รองรับการต่อกล้องหลัง และ โหมดบันทึกตอนจอด และใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานอาจจะไม่เหมาะกับรถยนต์ที่จอดรถตากแดดนานๆ เป็นประจำทุกวันค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
3. กล้องติดรถยนต์ DDPai Mola N3
กล้องติดรถยนต์ DDPai Mola N3 มีความคมชัด 2K สามารถติดตั้งเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลังก็ได้ นอกจากนี้ยังถอดกล้องติดรถยนต์กลับมาถ่ายในห้องโดยสารได้ สามารถสั่งล็อคไฟล์ฉุกเฉินได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟล์ถูกบันทึกวนลูปอัตโนมัติ ใช้ระบบบีบอัดไฟล์เป็นแบบ H.265 ซึ่งเป็นรบบบีบอัดไฟล์ที่ดีสุดสำหรับกล้องติดรถยนต์ในตอนนี้ ฐานของกล้องติดรถยนต์เป็นแบบแผ่นกาว 3M มีความทนทานไม่หลุดได้ง่ายๆแม้โดนความร้อน
จุดเด่นที่น่าสนใจ : กล้องติดรถยนต์ DDPai Mola N3 มี GPS เป็นตัวเลือก และ รองรับโหมดบันทึกตอนจอด ซึ่งปกติเรามักจะไม่ค่อยเห็นกล้องติดรถยนต์ไม่มีหน้าจอ มี GPS และ โหมดบันทึกตอนจอดสักเท่าไร แถมโหมดบันทึกตอนจอดในกล้องติดรถยนต์ Mola N3 ยังสามารถใช้ได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่
1. Time-lapse recording คือ ถ่ายภาพต่อเนื่องแบบเร่งความเร็ว วีดีโอที่บันทึกได้จะเคลื่อนไหวเร็วกว่าความจริง
2. Normal recording คือ บันทึกวิดีโอแบบปกติตลอดเวลา
3. event recording คือ บันทึกอัตโนมัติเมื่อมีแรงกระแทกเกิดขึ้นกับรถ เช่น ถ้าเกิดรถชน จะได้แค่คลิปหลังชน ไม่ได้คลิปก่อนชน
จุดสังเกต : กล้องติดรถยนต์ DDPai Mola N3 ไม่รองรับการต่อกล้องหลัง และตัวกล้องติดรถยนต์ถอดออกมาถ่ายในห้องโดยสายได้อย่างเดียวไม่สามารถหมุนซ้ายขวาได้ค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
4. กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 3
กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 3 ซึ่งตัวนี้มีหลายคนถามเทียบกับตัว Mola N3 มาค่อนข้างเยอะเพราะทั้งคู่มีจุดเด่นหลักๆ ที่เหมือนกันคือความคมชัดของกล้องก็คือ 2K ส่วนที่แตกต่างกันก็ คือ รูปลักษณ์ของกล้องติดรถยนต์ที่คนละดีไซน์ แต่ก็มีความเฉพาะตัว สวยกันคนละแบบ แถมตัวกล้องติดรถยนต์ ของ DDPai MINI 3 ยังสามารถหมุนได้ 360 องศา มีความจำภายในมาแล้วในตัว 32GB ทำให้เราไม่ต้องซื้อเมมโมรีการ์ดใส่เพิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังรองรับโหมดบันทึกตอนจอดแบบ Time-lapse recording และ ยังแถมฟรี รีโมทไร้สาย เพื่อใช้กดถ่ายรูป หรือ ล็อคคลิปไฟล์อุบัติเหตุด้วยตัวเองได้ง่ายๆอีกด้วย
จุดสังเกต : กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 3 ไม่มี GPS และ ไม่สามารถรองรับการต่อกล้องหลังได้ค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
5. กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 5
กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 5 เป็นกล้องติดรถยนต์ที่มีความคมชัด 4K ตัวกล้องมีไมโครโฟนสามารถตั้งเปิด/ปิดได้ ฐานยึดกล้องเป็นแบบแผ่นกาว 3M ไม่หลุดได้ง่าย แม้โดนความร้อนเป็นเวลานานๆ มี GPS มาแล้วในตัวสามารถใช้ฟังก์ชั่น ADASได้ ตัวพอร์ต USB เป็นแบบ Type-C ใช้ระบบบีบอัดไฟล์แบบ H.265 ที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้โหมดบันทึกตอนจอดได้แต่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริมสายต่อตรง
จุดเด่นที่น่าสนใจ : ตัวกล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 5 สามารถเลือกความคมชัดในการบันทึกวิดีโอได้ 3 ระดับ คือ 4K(2160P), 2K+(1600P), และ Full HD(1080P) และ มีหน่วยความจำภายในมาให้แล้วในตัว 64GB โดยที่เราไม่ต้องซื้อเมมใส่เพิ่ม
จุดสังเกต : กล้องติดรถยนต์ DDPai MINI 5 ไม่รองรับการต่อกล้องหลัง และ ถ้าต่อสายต่อตรงใช้โหมดบันทึกตอนจอด ตัวกล้องจะเข้าให้อัตโนมัติหลังผ่านไปแล้ว 15 นาที
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
6. กล้องติดรถยนต์ AZDOME C9
กล้องติดรถยนต์ AZDOME C9 เป็นกล้องติดรถยนต์ที่มี 2 กล้องแต่เป็น กล้องหน้าติดรถยนต์ กับ กล้องหลังติดในห้องโดยสาย ซึ่งกล้องหน้าติดรถยนต์มีความคมชัด Full HD ส่วนกล้องหลังติดในห้องโดยสารมีคมชัด HD ที่มาพร้อมไฟอินฟาเรด 4 ดวงสามารถเก็บภาพในเวลากลางคืนได้ นอกจากนี้ยังสามารพูดคุยโต้ตอบผ่านทางกล้องติดรถยนต์ได้ รองรับโหมดบันทึกตอนจอด 24 ชม.เป็นแบบ Time Lapse และเมื่อกล้องติดรถยนต์เข้าสู่โหมดบันทึกตอนจอด 24ชม. จะมีแจ้งเตือนไปที่มือถือให้ทราบ
จุดเด่นที่น่าสนใจ : ตัวกล้องติดรถยนต์ AZDOME C9 สามารถใส่ SIM เพื่อใช้ GPS Tracking ติดตามรถยนต์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถกดูภาพผ่านมือถือแบบออนไลน์ได้ทุกที่ โดยที่มือถือกับกล้องติดรถยนต์ไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กัน มีปุ่ม SOS เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือ และ สามารถปล่อยสัญญาณ Hotspot จากตัวกล้องเพื่อใช้เล่นอินเตอร์เน็ต เชื่อมได้ทั้ง มือถือ และ โน้ตบุ๊ค
จุดสังเกต : ตัวกล้องติดรถยนต์ AZDOME C9 ไม่สามารถกดถ่ายรูปได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
7. กล้องติดรถยนต์ AZDOME BN03
กล้องติดรถยนต์ AZDOME BN03 รูปทรงกล้องติดรถยนต์มีการออกแบบดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับกล้องราคาหลักหมื่นของประเทศเกาหลี ตัวกล้องหน้ามีความคมชัด 2K หมุนได้ 90 องศา ส่วน กล้องหลังมีความคมชัด Full HD สามารถหมุดได้ 360 องศา ที่ตัวกล้องหน้ามีไฟบอกสถานการณ์ทำงานของกล้องซึ่งทำให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งานกล้องเพิ่มมากขึ้น สามารถเลือกซื้อได้ เพราะมี 2 ตัวเลือก คือ แบบกล้องหน้าอย่างเดียวราคา 3 พันต้นๆ กับ ชุดกล้องหน้าพร้อมกล้องหลังที่ ราคา 3 พันปลายๆ มีGPS มาแล้วในตัว
จุดเด่นที่น่าสนใจ : ตัวกล้องหลังของ กล้องติดรถยนต์ AZDOME BN03 สามารถใช้ต่อกับกล้องหน้าติดรถยนต์ที่มีหน้าจอบางรุ่นได้ เช่น AZDOME M10 และ AZDOME AR08 เป็นต้น แถมตัวกล้องยังหมุนได้ถึง 360 องศา สามารถหมุนเข้ามาถ่ายในห้องโดยสารได้ง่ายๆ เพื่อกรณี มีตำรวจเข้ามามาค้นรถยนต์โดยไม่มีสาเหตุ เมื่อตำรวจเห็นกล้องก็จะไม่กล้าทำนั่นเองค่ะ และ กล้องหลังยังมีให้เลือกถึง 2 แบบ หากใครไม่ต้องการติดตั้งกล้องหลังไว้ในห้องโดยสาร สามารถเลือกกล้องหลังแบบติดตั้งนอกรถที่ตำแหน่งเหนือป้ายทะเบียนได้ ซึ่งการติดตั้งนอกรถจะทำให้ได้ภาพคมชัดมากขึ้น เพราะไม่ต้องถ่ายผ่านกระจกหลัง แต่การติดตั้งเดินสายออกไปด้านนอกรถ จะทำได้ยากกว่าและใช้เวลามากกว่าแบบติดตั้งกล้องหลังในรถ หรือหากใครที่ต้องการให้ช่างติดตั้งเดินเก็บสายให้ ก็สามารถใช้บริการติดตั้งนอกสถานที่ กับทาง เพจ Rizer ได้ที่ลิงค์นี้ Rizer กล้องติดรถยนต์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
8. กล้องติดรถยนต์ VIOFO A139
กล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 เป็นกล้องติดรถยนต์ในแบรนด์ VIOFO รุ่นแรก ที่มีกล้องติดรถยนต์มาให้ถึง 3 กล้อง ได้แก่ กล้องหน้าติดรถยนต์ ที่มีความคมชัด 2K กล้องหลังติดรถยนต์ มีความคมชัด Full HD และกล้องติดในห้องโดยสาร มีความคมชัด Full HD ซึ่งทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเป็นรูปทรงใหม่ไม่ได้เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ในแบรนด์เดียวกันอีกต่อไปแล้ว ตัวกล้องติดรถยนต์มีตัวเลือกกล้องติดรถยนต์ให้เลือกซื้อถึง 2 แบบ คือ 1. ชุดกล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง 2 ชุดกล้องหน้าพร้อมกล้องหลังบวกกับกล้องติดในห้องโดยสาร ซึ่งถ้าเราไม่ต้องการใช้กล้องติดห้องโดยสารเราก็ยังมีชุดกล้องหน้าพร้อมกล้องหลังให้เลือกซื้อด้วย ถือว่าดีมากๆ ค่ะ
จุดเด่นที่น่าสนใจ : กล้องติดรถยนต์ VIOFO A139 เมื่อใช้กล้องติดรถยนต์พร้อมกันความคมชัดของกล้องหน้ายังคงเป็น 2K เหมือนเดิม แต่เฟรมเรทลดลงจาก 60FPS เหลือ 30FPS แทน ตัวกล้องรองรับโหมดบันทึกตอนจอดได้ 3 รูปแบบเช่น เดียวกับกล้องติดรถยนต์ VIOFO รุ่น A129 กับ A119v3 คือ
1. Auto event detection คือ บันทึกวิดีโอก่อนและหลัง เมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้องติดรถยนต์
2. Time lapse คือ ถ่ายภาพต่อเนื่องแบบเร่งความเร็ว วีดีโอที่บันทึกได้จะเคลื่อนไหวเร็วกว่าความจริง
3. Low bitrate คือ บันทึกวิดีโอด้วยบิตเรทต่ำเพื่อประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล ขนาดไฟล์จะอยู่ที่ประมาณ 4 Mbit/s และ สุดท้ายรองรับเมมโมรีการ์ดได้สูงถึง 256GB ค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
9. กล้องติดรถยนต์ VIOFO WR1
กล้องติดรถยนต์ VIOFO WR1 เป็นกล้องติดรถยนต์รุ่นแรกในแบรนด์ VIOFO ที่ไม่มีหน้าจอ ตัวกล้องติดรถยนต์ WR1 มีขนาดเล็ก กะทัดรัด แถมมีความคมชัดถึง Full HD ตัวกล้องใช้เซ็นเซอร์ SONY CMOS ร่วมด้วย ทำให้ภาพที่บันทึกได้มีความคมชัด มีปุ่มบันทึกฉุกเฉินสำหรับกดล็อคคลิปวิดีโอ
จุดเด่นที่น่าสนใจ : ตัวกล้องติดรถยนต์ VIOFO WR1สามารถเลือกขายึดกล้องได้ 2 แบบ คือแบบแผ่นกาว 3M กับ แบบดูดกับกระจก ซึ่งทั้งสองแบบนี้ยังสามารถปรับหมุนกล้องขึ้น-ลง และ หันซ้าย-ขวาได้ มีเสียงแจ้งเตือนให้ทราบเมื่อกล้องไม่บันทึกวิดีโอ และสุดท้ายสามารถตั้งให้กล้องตรวจจับเฉพาะเมื่อสิ่งมีเคลื่อนไหวผ่านหน้ากล้องได้อบ่างเดียวได้เพื่อประหยัดพื้นที่เมมโมรีการ์ดนั่นเองค่ะ
จุดสังเกต : กล้องติดรถยนต์ VIOFO WR1ไม่รองรับการต่อกล้องหลัง และ โหมดบันทึกตอนจอด24ชม.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
10. กล้องติดรถยนต์ Mobil Cam M6
กล้องติดรถยนต์ Mobil Cam M6 มีดีไซน์ที่เรียบหรู พรีเมียม ทันสมัย ใช้งานง่าย ตัวนี้มาพร้อมกับตัวเลือกกล้องให้เลือกซื้อได้ 2 แบบ คือ แบบกล้องหน้าอย่างเดียว กับ แบบกล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง โดยที่กล้องหน้าจะมีความคมชัด 2K ส่วนกล้องหลังคมชัด Full HD ตัวกล้องมี GPS มาแล้วในตัว ไม่ต้องซื้อมาต่อเพิ่ม เมื่อดูภาพแบบ Real Time ผ่านทางมือถือ ถึงแม้ว่าภาพจากกล้องหน้าติดรถยนต์จะมีความคมชัดถึง 2K แต่ภาพที่ดูแบบ Real Time ก็ไหลลื่นไม่กระตุก
จุดเด่นที่น่าสนใจ : ตัวกล้องติดรถยนต์ Mobil Cam M6 ชุดกล้องหน้าอย่างเดียวราคาประมาณ 2พันปลายๆ กับ ชุดกล้องหน้าพร้อมกล้องหลังที่มีราคาประมาณ 3 พันปลายๆ แต่ใช้แหล่งจ่ายพลังงานที่เป็นคาปาซิเตอร์ที่ทนความร้อนได้ดี และเป็นที่นิยมในกล้องติดรถยนต์ระดับไฮน์เอ็น รวมถึงยังให้กล้องหลังที่มีความคมชัดระดับ Full HD ซึ่งปกติกล้องติดรถยนต์ราคาประมาณเท่านี้จะให้กล้องหลังติดรถยนต์คมชัดประมาณแค่ VGA เท่านั้น
จุดสังเกต : กล้องหน้าติดรถยนต์ของกล้องติดรถยนต์ Mobil Cam M6ไม่สามารถหมุนมาถ่ายในห้องโดยสารได้ และ ก่อนตัดสินใจซื้อควรพิจณาให้ดีก่อนว่าต้องการแบบไหน กล้องหน้าอย่างเดียว หรือ กล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง เพราะถ้าซื้อชุดกล้องหน้าเพียงอย่างเดียวไปเวลาต่อมาอยากติดกล้องหลังเพิ่มด้วยตรงนี้จะไม่สามารถซื้อกล้องหลังไปติดเพิ่มได้ เพราะมันไม่รองรับกัน แต่กล้องหน้าติดรถยนต์ของ Mobilcam รองรับกล้องหลังของ AZDOME รุ่น WR05 หรือ WR03/WR04 ซึ่งเป็นกล้องหลังตัวเดียวกันกับ AZDOME BN03 ได้ สามารถซื้อเพิ่มได้ที่เพจ Rizer ได้ที่ลิงค์นี้ Rizer กล้องติดรถยนต์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
ตารางเปรียบคุณสมบัติของกล้องติดรถยนต์ไม่มีหน้าหน้าจอน่าใช้ในปี 2021