Last updated: 6 ก.ย. 2566 | 2748 จำนวนผู้เข้าชม |
สวัสดีค่ะวันนี้ทางเราก็มีวิธีง่ายๆ ที่จะมาช่วยทำให้สาวๆ ได้มี ผิวหน้าขาวใส ไร้สิว แถมได้ ผิวหน้าสุขภาพดี มาบอกว่าทำอย่าไร เพราะเราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนมักพบเจอกับปัญหาผิวหน้าไม่ขาวใส ไม่เนียน รูขุมขนกว้าง หน้ามันเยิ้ม และสิวบุกกันอย่างต่อเนื่อง อารณ์แบบสิวเก่ายังไม่ทันหายสิวใหม่ก็มาอีกแล้วเหรอ มาแล้วไปดีๆ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่มาแล้วทิ้งรอยไว้เป็นที่ละลึกอีกนี่น่ะสิ แหม๋!! ไม่ได้ต้องการเลยสักนิด เพราะฉะนั้นอย่ามัวแต่รอช้า เราควรรีบหันมาดูแล ผิวหน้า ของเราให้ ขาวใส สุขภาพดี กันดีกว่า อย่าบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยทำนะ เพราะพรุ่งนี้มีทุกวันนะคะทุกคน เอาละ อย่ารอช้าถ้าใครพร้อมต้อนรับผิวหน้าใหม่ที่ดีกว่าเดิมแล้ว ก็รีบไปทำตามวิธีดังต่อไปนี้เลย
1. ผิวสุขภาพดี ด้วยการ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย
-ตื่นนอนตอนเช้า : 1 แก้ว ควรดื่มเลย 1 แก้วเพราะเป็นช่วงที่ร่างกายขาดน้ำ
-09:00-10:00 น. : 2 แก้ว แบ่งดื่มเรื่อยๆ เป็นช่วงที่ร่างกายกำลังขับของเสีย
-ก่อนกินข้าว ควรดื่มน้ำก่อน 30 นาที
-13:00-14:00 น. : 3 แก้ว แบ่งดื่มเรื่อยๆ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายขาดน้ำและง่วงนอน
-19:00-20:00 น.: 2-3 แก้ว แบ่งดื่มเรื่อยๆ เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายชำระสิ่งตกค้างในลำใส้
ก่อนเข้านอน : 1 แก้ว ดื่มก่อนเข้านอน 30 นาที
ถ้าอยากมีผิวหน้าขาวใส แบบสุขภาพดี การดื่มน้ำเปล่านี่ต้องบอกเลยว่า เป็นวิธีที่ Basic ที่สุดแล้ว ถ้าสาวๆคนไหนทำได้นี่ คือ คุณมีผิวหน้าสุขภาพดีสำเร็จไปแล้ว 1 ขั้นเลยนะ และไม่ใช่ได้แค่ผิวหน้านะที่ได้ทั้วตัวแบบ 2 In 1 ไปเลยสำหรับการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งค่าเฉลี่ยของการดื่มน้ำเปล่าพื้นฐานอยู่ที่ 1.5 ลิตรต่อวัน แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และกิจกรรมของแต่ละคนในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้าง หากวันนี้ออกกำลังกายอย่างหนัก น้ำเปล่าที่ดื่มเข้าไปก็อาจจะต้องเยอะกว่าค่าเฉลี่ยนั้นเองค่ะ และทางเราก็ทราบว่าการดื่มน้ำเปล่า มันยากมากสำหรับหลายๆคน แต่ถ้าเราอยากมี ผิวหน้าขาวใส ผิวสุขภาพดี ดูอิ่มน้ำ รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าไม่มันเยิ้ม เราก็ต้องอดทและนค่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆค่ะ และการดื่มน้ำที่ดีคือการแบ่งจิบระหว่างวันนะ ไม่ใช่ยกดื่มที่เดียวเยอะๆเลย แบบนี้ไม่แนะนำนะคะ หรือถ้าเราไม่ชอบดื่มน้ำเปล่าก็สามารถดื่มน้ำผลไม้คั้นสดแทนได้เช่นกันค่ะ นอกจากได้น้ำที่เพียงพอต่อร่างกายแล้วแถมยังได้วิตามินจากผลไม้เพิ่มอีกด้วย
2. ผิวสุขภาพดี ด้วยการ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ถ้าอยากมี ผิวหน้าขาวใส ผิวสุขภาพดี แบบไอดอลของเราแล้วละก็ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็เป็นสิ่งสำคัญแถมเป็นวิธีที่ Basic ไม่ต่างกับการดื่มน้ำเลยนะ เพราะการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยควรนอนให้ได้ 7-8 ชม. ร่วมถึงการเข้านอนก่อน 4 ทุ่มถ้าทำได้นี่คือดีมากๆ รับรองว่าเราจะมี ผิวหน้าสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ และ เนียนใส อย่างแน่นอน เพราะถ้านอนดึกหรือนอนน้อยเกินไป ผิวหน้าของเราก็จะ เกิดริ้วรอย สิวขึ้น และ ใต้ตาดำ ยิ่งใต้ตาดำนี่ถ้าได้ดำแล้วหายยากด้วยนะบอกเลย และเมื่อใต้ตาดำผลที่ตามมาอีกอย่างก็คือมันจะให้ ผิวหน้าของเราดูโทรม หมองคล้ำไปแบบงงๆ เพราะฉะนั้นถ้าเลิกนิสัยนอนดึกได้ให้เลิกค่ะ แต่ก็จะมีสาวๆอีกหลายคน ที่ไม่สามารถเข้านอนเร็วและพักผ่อนให้เพียงพอได้เพราะกว่าจะทำงานเลิกงาน อาบน้ำเข้านอนก็ดึกดื่นแล้ว แถมยังต้องตื่นเช้าไปทำงานอีก ไม่เป็นไรค่ะ เราคงไม่ได้นอนดึกในทุกๆวันอยู่แล้ว ค่อยๆปรับไปทีละนิดดีกว่าไม่ปรับเลย และที่สำคัญ Skincare ห้ามขาดเลยนะ
3. ผิวสุขภาพดี ด้วยการ กินอาหารที่มีประโยชน์
การกินอาหารที่มีประโยชน์และครบ 5 หมู่นั้น มีส่วนที่ช่วยให้ผิวหน้าของเราขาวใสและสุขภาพดีแน่นอน โดยเฉพาะผักและผลไม้ ถ้าใครที่กินทั้ง 2 อย่างนี้ได้ แนะนำให้กินไปเลยค่ะ ถ้ากินแทนพวกขนมขบเคี้ยวระหว่างวันได้เลยยิ่งดีค่ะ แต่ก็เลือกผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ด้วยนะ ไม่ใช่พอบอกให้กินผักผลไม้เยอะๆ เพื่อผิวสุขภาพดีของเรา ก็เลยกินทุเรียนไป 2 ลูก ดูทรงแล้วน่าจะไม่รอดนะคะตายก่อน คืออาหารทุกอย่างมันมีทั้งดีและโทษค่ะ เราต้องเลือกกินและแบ่งกินให้เหมาะสมตามสัดส่วนของมัน และเราไม่ควรงดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งไปเลยเด็ดขาด แนะนำให้เปลี่ยนจากงดเป็นลดแทน ลดให้น้อยลงหรือให้เพียงพอต่อร่างกายก็พอ เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่ขาดสารอาหารและมีสารอาหารไปซ่อมแซมร่างกายของเรานั่นเองค่ะ
4.ผิวสุขภาพดี ด้วยการ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนทำให้ผิวของเราแข็งแรงและสุขภาพดีด้วยนะ ซึ่งเราควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์หนึ่ง 2-3 ครั้ง หรือวันละ20-30 นาที เพราะเวลาเราออกกำลังกายเลือดของเราจะมีการสูบฉีดมากขึ้น เมื่อเลือดสูบฉีดมากขึ้นการลำเลียงออกซิเจนในเลือดก็จะทำได้ดีขึ้น ทำให้เลือดนำออกซิเจนไปไปหล่อเลี้ยงผิวได้ง่ายนั่นเอง สังเกตุได้เลยว่าหลังจากออกกำลังกายผิวหน้าของเราจะมีความกระจ่างใสและมีสีชมพูระเรื้อแบบคนผิวสุขภาพดีขึ้นมาทันที ร่วมถึงการออกกำลังกายยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายรสร้างคอลลาเจนออกมามากขึ้นด้วย ซึ่งคอลลาเจนมีส่วนทำให้ผิวหน้าเรากระชับและอ่อนเยาว์นั้นเอง แต่การออกกำลังกายที่ดีก็ไม่ควรหักโหมมากเกินไปถ้าเราหักโหมมากไป จากที่จะได้ผิวสุขภาพดีก็อาจจะได้ผิวโทรมมาแทนก็ได้เช่นกันค่ะ
5.ผิวสุขภาพดี ด้วยการ ลงสกินแคร์บำรุงผิวหน้า
ข้อสุดท้ายนี้บอกเลยว่า ของมันต้องมี และเชื่อว่าสาวๆทุกคนต้องมีสกินแคร์บำรุงผิวหน้ากันไม่มากก็น้อยกันอย่างแน่นอน เราเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมเราใช้สกินแคร์บำรุงผิวหน้าตามที่เขาบอกแล้วแต่ ผิวหน้าของเราไม่เห็นขาวใสขึ้นเบบเขาเลย ตรงนี้บอกเลยว่าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นเพของผิวหน้า เพราะผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกันการดูและก็เลยไม่เหมือนกัน บางคนมีผิวหน้าบาง บางคนมีผิวหน้าที่ค่อนข้างหนา บางคนมีผิวหน้ามัน บางคนผิวหน้าแห้ง บางคนผิวหน้าผสม หรือแม้กระทั้งบางคนมีผิวหน้าแพ้ง่าย เราก็เลยต้องเลือกสกินแคร์ให้ตอบโจทย์กับผิวหน้าของเราด้วยไม่ใช่ว่าจะใช้อะไรก็ได้นะคะ และเมื่อเลือกสกินแคร์ที่ตอบโจทย์ผิวหน้าได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดูแลผิวหน้าและการลงสกินแคร์บนผิวหน้า ให้ถูกวิธี แน่นอนว่าเราคงจะเคยเห็นว่าคนที่เขาผิวหน้าขาวใส เขาก็จะมีขั้นตอนการดูแลผิวหน้าและลงสกินแคร์ผิวหน้าที่เยอะมาก ซึ่งถ้าเราอยากมี ผิวหน้าขาวใส สุขภาพดีแบบเขา เราก็ต้องอดทนดูแลผิวแบบเขานะ ขั้นตอนการลงสกินเเคร์ ก็สามารถทำตามภาพด้านบนนี้ได้เลยค่ะ (ถ้าใครไม่ได้มีสกินแคร์ตามทุกอันก็ไม่เป็นอะไรนะ ลงเท่าที่เรามีแต่ตามขั้นตอนก็พอค่ะ)
และนี่ก็คือ 5 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เราสามารถ ดูแลผิวหน้าให้ ผิวหน้าขาวใส และ ผิวสุขภาพดี ด้วยตัวเราเอง และต้องบอกเลยว่าอย่าเลือกทำข้อใดข้อหนึ่งนะ ให้ทำทุกข้อควบคู่กันไป เพราะทุกข้อมันเกี่ยวโยงกันและก็อย่าลืมที่จะเบามือเมื่อสัมผัสผิวหน้าในทุกขั้นตอนด้วยนะคะ นอกจากนี้ทางเราก็มีข้อแถมอีกข้อด้วยก็ คือ การเพิ่มพลังบวกให้กับตัวเองในทุกๆวัน เข้าใจว่าสถานการณ์ทุกวันนี้ย้ำแย่ กดดันในทุกๆ ทางจนทำให้เราเครียด บางคนก็เครียดแบบรู้ตัว บางคนก็เครียดแบบไม่รู้ตัว และความเครียดเหล่านี้ที่เกิดขึ้น นอกจากจะทำให้ สมองของเราไม่ไบร์ทแล้วก็ยังทำให้ร่างกายและผิวหน้าของเราดูแย่ลงอีกด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อไรที่เครียดต้องหาวิธีเพิ่มพลังบวกให้กับตัวเองด้วยนะเพื่อสุขภาพและความงามของเราค่ะ ซึ่งวันนี้ทางเราก็ต้องขอตัวลาไปก่อนขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ค่ะ
บทความเพิ่มเติม
1 ส.ค. 2567
10 ต.ค. 2567