เกิดอุบัติเหตุทำไง ควรเคลื่อนย้ายรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือไม่

เพื่อนๆ ที่ใช้รถใช้ถนนกันทุกคนก็คงหนีไม่พ้นต้องเคยเห็นอุบัติเหตุกันมาบ้างอย่างแน่นอน ซึ่งบางครั้งอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ แต่มันดันขวางทางจราจร ก็เล่นเอารถติดยาวไปเป็นชั่วโมงเลยก็มี ตรงนี้แหละครับทำให้หลายคนสงสัยว่า จริงหรือไม่ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้ว ห้ามเคลื่อนย้ายรถเด็ดขาด แล้วแบบนี้ถ้ามันขวางการจราจรเราควรจะทำยังไงดี มาหาคำตอบในบทความนี้ไปพร้อมๆ กันได้เลย

 

1. แจ้งบริษัทประกันภัยให้เร็วที่สุด

อันดับแรกเลยหลังเกิดอุบัติเหตุให้โทรแจ้งบริษัทประกันภัยเลยครับว่า รถเราชนตรงไหน ยังไง เพื่อให้เค้าทราบ ซึ่งบางครั้งเราอาจได้รับการชนรุนแรงจนต้องขอความช่วยเหลือ เค้าก็จะประสานกับพวกรถยกต่างๆ ให้ บางประกันภัยก็มีบริการลากรถฟรีให้ด้วย ซึ่งประกันเนี่ยที่ต้องแจ้งก่อนใครเพราะเค้าจะได้มาช่วยเหลือและประเมินว่าควรทำยังไงต่อไป

 

2. ระหว่างรอให้ถ่ายรูปเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้

ระหว่างที่รอประกันมา เข้าใจครับว่าบางทีมันอาจจะกีดขวางทางจราจรและทำให้กดดันมาก แต่ก่อนที่เราจะขยับรถ ให้เราลงไปถ่ายรูปก่อนรอบคันเลย ให้เก็บภาพหลักฐานการเกิดอุบัติเหตุเอาไว้ให้ชัดที่สุด ทุกมุม ว่ามาจากไหน มายังไง ชนท่าไหน ตรงจุดไหน รวมถึงถ่ายป้ายทะเบียนรถของคู่กรณีเอาไว้ด้วย ป้องกันการชนแล้วหนีนั่นเอง

 

3. รู้ฝ่ายผิดถูกแน่ชัดก็เคลื่อนรถยนต์ได้เลย

หลังจากเก็บหลักฐานแล้ว ถ้าพูดคุยกับคู่กรณีแล้วตกลงกันได้ หรือมั่นใจแน่ๆ ว่ามีคนถูก คนผิดที่ชัดเจน ก็สามารถเคลื่อนรถได้เลยครับ แต่อย่าลืมเก็บหลักฐานด้วยนะ ถ่ายรูปไว้ให้ครบๆ ล่ะ

 

4. กล้องติดรถยนต์เป็นไอเท็มสำคัญที่ต้องมี

กล้องติดรถเนี่ยแหละครับ ตัวช่วยในการลดเวลาเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพราะบางครั้งคู่กรณีของเราอาจกลัว หรือไม่รู้ว่าสามารถขยับรถได้ เราก็สามารถอธิบายเค้าได้ว่าถ้ามีหลักฐาน และมีการยอมรับผิดกันเรียบร้อยก็สามารถขยับรถได้เลย แต่มันจะมีกรณีที่บางทีตกลงกันเรียบร้อยว่าใครผิดใครถูก แต่พอประกันมาถึงคู่กรณีกลับเปลี่ยนคำพูด และบอกว่าเราผิด ซึ่งตรงนี้กล้องติดรถยนต์จะช่วยเป็นหลักฐานพยานชั้นดีที่ช่วยให้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนผิด ดังนั้นใครที่ยังไม่มีกล้องติดรถ ต้องรีบหามาใช้โดยด่วนเลยครับ เพราะมันสำคัญมากจริงๆ สั่งซื้อได้ที่ ไรเซอร์ 

 

5. โทรสอบถามประกันถึงความเหมาะสม

การเคลื่อนย้ายรถถ้าไม่มั่นใจ เพื่อนๆ สามารถโทรสอบถามประกันได้เลยครับ เพราะถ้ารอเค้ามาอาจจะใช้เวลานานมากเกินไป ให้เล่ารายละเอียดให้เค้าฟัง แล้วถามเลยว่าเราเลื่อนได้มั้ย ขยับได้รึเปล่า มันขวางการจราจรยังไง เค้าจะช่วยตัดสินใจอีกที

 

ตรงนี้ให้จำไว้นะครับว่า ทุกการเฉี่ยวชน ย่อมมีข้อยกเว้นเสมอ ถ้ามันทำให้การจราจรเป็นอัมพาต ให้เก็บหลักฐานภาพทุกมุมไว้ ก่อนขยับเคลื่อนย้ายรถไป กล้องหน้ารถเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความถูกต้องของเราได้ และประกันรถยนต์คือเพื่อนแท้ตัวจริงยามเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นอย่าลืมเมมเบอร์โทรของเค้าไว้อยู่ในรายชื่อที่กดโทรออกได้ง่ายที่สุด เพื่อสะดวกต่อการติดต่อ