Last updated: 2 มี.ค. 2562 | 1435 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับประกันรถยนต์เนี่ยเป็นสิ่งที่น่าปวดหัวอีกหนึ่งเรื่องของคนใช้รถเลยล่ะครับ เนื่องจากรายละเอียดยิบย่อยมันเยอะมาก จนมือใหม่หลายคนถึงกับท้อไปเลยก็มี ไม่รู้ว่าจะซื้อประกันชั้นไหนยังไง ถึงจะเหมาะกับการใช้งานของตัวเองและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งแน่นอนเมื่อมีคนที่กำลังเดือดเนื้อร้อนใจ เราก็จะปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ได้เด็ดขาด วันนี้ Solivelyth เลยเอาเทคนิคเลือกประกันรถยนต์ให้เหมาะกับทุกคนมาฝากกัน
1. ทำความเข้าใจประกันแต่ละชั้น
อันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่าประกันแต่ละชั้นแตกต่างกันยังไงบ้าง ซึ่งเรียงตามลำดับคร่าวๆ ได้ดังนี้
ประกันชั้น 1 : คุ้มครองแทบทุกอย่าง ชนแบบไม่มีคู่กรณีก็ได้ สั่งเคลมได้ตลอดเวลา ไฟไหม้ น้ำท่วม รถหาย คุ้มครองหมด แต่ก็แพงที่สุด
ประกันชั้น 2 : คุ้มครองรองลงมา รับผิดชอบเฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้น รถเราเราต้องซ่อมเอง แต่คุ้มครองเวลาไฟไหม้ น้ำท่วม
ประกันชั้น 2+ : เหมือนชั้น 2 ทุกอย่าง แต่เพิ่มในเรื่องคุ้มครองการชนขึ้นมา ถ้าขับชน ประกันซ่อมให้ทั้งเค้า และเราเลย ไม่ต้องควักเงินเอง
ประกันชั้น 3 : ประกันคุ้มครองซ่อมให้แค่คู่กรณีอย่างเดียว ไม่ป้องกันรถหาย รถไฟไหม้เลย สรุปแล้วมีไว้ซ่อมเค้าโดยเฉพาะ
ประกันชั้น 3+ : ไม่ป้องกันไฟไหม้ สูญหาย แต่ช่วยออกเงินให้ทั้งเราและเค้าเวลาเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เราไม่ต้องซ่อมเอง
2. เบี้ยประกันรถยนต์
เมื่อรู้แล้วว่าประกันแต่ละชั้นมีความคุ้มครองอะไร ยังไง เหมาะกับใคร ทีนี้มาดูเงินในกระเป๋ากันต่อเลยครับ ว่าเรามีงบเท่าไหร่ ซึ่งประกันรถยนต์นั้นก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละชั้น ไล่ลำดับไปคือ ชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 2 ชั้น 3+ ชั้น 3 และ ชั้น 4 ซึ่งถ้าเราสนใจประกันชั้น 1 แต่ไม่มีงบมากพอ ก็ใช้ประกันชั้น 2+ แทนก็นับว่าคุ้มค่าและครอบคลุมมากที่สุดแล้วครับ
3. ประกันชั้นไหนเหมาะกับใครที่สุด
ทีนี้มาถึงการดูกันแล้วล่ะครับว่า ประกันรถยนต์ชั้นไหนถูกออกแบบมาเพื่อใครโดยเฉพาะ
รถป้ายแดง มือใหม่หัดขับ : เสี่ยงต่อการชนแบบนี้มีโอกาสชนต้นไม้ ชนเสา ชนแบบไร้คู่กรณีบ่อยแน่นอน เหมาะกับประกันชั้น 1 เลยครับ
มีประสบการณ์ ใช้รถบ่อย ไม่อยากจ่ายแพง : ถ้ารู้ตัวว่าไม่ค่อยขับชนเสา ชนต้นไม้แล้ว ก็จัดประกันชั้น 2+ ไปเลยครับ เพราะต่อให้ชนรถด้วยกันเค้าก็ยังซ่อมให้ทั้งเรา และเค้าอยู่ หรือถ้าอยากประหยัดกว่านั้นก็ 3+ แต่อันนี้เค้าจะไม่ครอบคลุมไฟไหม้กับรถหายนะ
ขับช้า ระมัดระวัง มั่นใจมากว่าไม่ขับชนแน่นอน : สำหรับใครที่มั่นใจสุดๆ ขนาดนี้ และไม่อยากเสียเงินแพง ก็ทำประกันชั้น 2 ไปเลยครับ ถูกจริง แต่ถ้าเราขับชนเค้าจะซ่อมให้เฉพาะคู่กรณีนะ รถเราต้องซ่อมเอง หรือประกันชั้น 3 ไปเลยครับถูกที่สุด คือ ซ่อมให้เฉพาะรถชนรถ ซ่อมแต่คู่กรณี มีไว้เพื่อเคลมให้เค้าอย่างเดียวล้วนๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นหลักการเลือกประกันตามการใช้งานและนิสัยการขับขี่ของเรา ซึ่งในความจริงแล้วเรื่องเบี้ยประกันมันยังมีอีกหลายปัจจัยให้ช่วยลดราคาลงได้ อย่างการติดกล้องหน้ารถเนี่ยก็ช่วยประหยัดค่าเบี้ยไปได้หลักพันบาทเลย เพราะฉะนั้นรีบไปซื้อกล้องติดรถจาก ไรเซอร์ มาใช้งานได้เลย ทั้งเป็นหลักฐานอย่างดีเวลาเกิดอุบัติเหตุ ทั้งช่วยให้อุ่นใจในการขับขี่ แถมยังลดเบี้ยประกันต่อปีได้อีก กำไรเยอะขนาดนี้ไม่มีไม่ได้แล้วววว