Last updated: 1 มี.ค. 2562 | 2391 จำนวนผู้เข้าชม |
ต้องบอกก่อนนะครับว่า เรื่องโดนชนแล้วหนีเนี่ยไม่ใช่เรื่องใหม่ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน มีคนโดนชนแล้วหนีตลอด แต่ที่พักหลังๆ เหตุการณ์แบบนี้ค่อยๆ หายไป และมีคนทำน้อยลงก็เพราะ รถส่วนใหญ่ “มีกล้องติดรถ” นั่นเองครับ ทำให้คนเกรงกลัว ไม่กล้าหนี จากที่ชนอย่างเดียว ประกันเคลียร์แล้วจบ จะกลายเป็นเพิ่มข้อหาหนักเข้าไปอีก ซึ่งวันนี้เราจะมาบอกวิธีการสำหรับคนที่โดนชนแล้วหนีกันว่า ต้องทำยังไงบ้าง แล้วประกันเค้าจะจ่ายให้เรารึเปล่า
เช็คก่อนว่าประกันเราคุ้มครองหรือไม่
การชนแล้วหนีนับเป็นการชนประเภทหนึ่งครับ คือ การชนแต่หาคู่กรณีไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ประกันแต่ละประเภทเค้าก็จะคุ้มครองแตกต่างกันออกไป โดยเราจะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
ประกันชั้น 1 : คุ้มครองแน่นอน ต่อให้ตามตัวคู่กรณีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร (จ่ายแพงสุดก็ได้สิทธิ์ดีๆ แบบนี้แหละ)
ประกันชั้น 2+ และ 3+ : ทั้ง 2 แบบนี้คุ้มครองก็จริง แต่เราต้องหาเลขทะเบียนคนชนมาให้เจอให้ได้ ประกันถึงจะเคลมให้ เพราะเค้าต้องใช้เลขทะเบียนคู่กรณี แต่ถ้าไม่มีเลขทะเบียน ชนแล้วก็จบ แบบนี้ถือว่าเราต้องซ่อมเอง
ประกันชั้น 2 และ 3 : ไม่คุ้มครองเลย โดนชนแล้วหนีต่อให้เจอทะเบียนก็ทำอะไรไม่ได้ เราต้องซ่อมเองเท่านั้น
ใช้ประกันชั้น 2+ และ 3+ โดนชนแล้วหนี จะเอาเลขทะเบียนมาจากไหน
หลายคนเริ่มสงสัยใช่มั้ยครับว่า ก็เราโดนชนแล้วหนี แบบนี้เลขทะเบียนจะเอามาได้ยังไง ถ้ารู้ว่าใครชนก็ไปตามถึงบ้านแล้วมั้ยล่ะ ตรงนี้ขอให้ใจเย็นๆ ก่อนครับ เพราะมันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากเนี่ยแหละ กล้องหน้ารถเลยสำคัญมากจริงๆ คนไทยจึงเริ่มให้ความสำคัญกับกล้องหน้ารถกันมากขึ้นเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์เวลาที่เราไม่อยู่ ซึ่งกล้องอาจจะบันทึกภาพทะเบียนคู่กรณีให้เราได้ใช้เป็นหลักฐานในการเรียกร้องสิทธิ์เคลมนั่นเองครับ ดังนั้นใครที่ยังไม่มีกล้องติดรถยนต์เนี่ย รีบไปซื้อจาก ไรเซอร์ มาใช้กันด่วนเลย
ประกันคุ้มครอง แล้วทำยังไงต่อ
ทีนี้ทุกอย่างคลี่คลาย รู้แล้วว่าเรามีสิทธิ์ที่จะเรียกเคลมได้ ก็ให้จัดการตามวิธีนี้ไปทีละขั้นตอนได้เลย
1. โทรหาบริษัทประกันภัย : แจ้งว่าเกิดเหตุที่ไหน ยังไง มีกล้องติดรถให้ดูหลักฐานมั้ย
2. ไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน : แจ้งความว่าโดนชนแล้วหนี แล้วตำรวจจะออกหมายเรียกคู่กรณีให้
3. ตำรวจดูกล้องหน้ารถ แล้วออกหมายเรียก : ถ้ามีกล้องหน้ารถเป็นหลักฐาน ตำรวจจะต้องใช้เพื่อยืนยัน และออกหมายเรียก แต่ถ้าไม่มีกล้องหน้ารถ ตำรวจก็จะออกหมายขอตรวจดูกล้องวงจรปิดให้
4. ประกันส่งมอบใบเคลม : หลังมีหลักฐานชัดเจน เห็นเลขทะเบียนคู่กรณี ประกันจะส่งมอบใบเคลมให้เรานำไปเคลมได้ทันที
สุดท้ายแล้วเพื่อนๆ ก็คงจะเห็นแล้วเนอะว่ากล้องติดรถยนต์มันสำคัญมากจริงๆ ชนิดที่ว่าห้ามพลาดเลย คนใช้รถทุกคนต้องมีติดไว้ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยครับว่าอุบัติเหตุมันจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ ลงทุนหลักพันในวันนี้ ดีกว่าต้องไปเสียใจตอนโดนชนแล้วหนี ซึ่งค่าซ่อมด้วยตัวเองของมันเนี่ย บางทีอาจจะถึงหลักแสนได้เลยล่ะครับ