Last updated: 1 มี.ค. 2562 | 1869 จำนวนผู้เข้าชม |
กล้องติดรถยังคงเป็นไอเท็มฮอตฮิตติดลมบนสำหรับคนใช้รถอยู่ดีนะครับ เพราะประโยชน์มันมหาศาล ลามไปเรื่อยจนมาถึงเรื่องการเคลมประกันนี่แหละเลยทำให้มีคนใช้งานกันเยอะมาก และวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องกรณีการเคลมประกันกันเองว่าต้องทำยังไงบ้าง เผื่อวันดีคืนดี มีอุบัติเหตุขึ้นมาเราจะได้ไม่ร้อนรนจนทำอะไรผิดๆ ถูกๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ใช้รถคนเดียวก็ควรจะอ่านไว้ทำความเข้าใจด่วนๆ เลย จะได้รับมือกับสถานการณ์สุดวิสัยนี้ได้อย่างถูกต้อง
มีสติทันทีหลังมีอุบัติเหตุ
หลังจากเกิดอุบัติเหตุปุ๊บ สิ่งที่ต้องมีในการเคลมประกันอย่างแรกเลยคือ “มีสติ” ครับ เพราะหลายคนที่เกิดอุบัติเหตุมักจะตกใจจนทำอะไรที่ผิดๆ ได้ บางคนขับหนี บางคนไม่กล้าลงจากรถ ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้จะทำให้เรื่องบานปลายที่สุดและจบด้วยความเลวร้ายเสมอ ตั้งสติไว้ครับเพื่อเตรียมทำในขั้นตอนต่อไป
มีเบอร์ประกันไว้ในเครื่อง
จริงๆ แล้วรถยนต์ที่ทำประกันไว้เค้าจะมีกรมธรรม์เอาไว้ติดต่อกับประกันอยู่ในเก๊ะรถนี่แหละครับ หลังจากเกิดอุบัติเหตุก็ให้เราเช็คได้เลยตรงนี้ ว่าเบอร์ประกันเราเบอร์อะไร หรือถ้าอยู่ในเครื่องเมมเอาไว้ก็โทรติดต่อทันทีเพื่อแจ้งรายละเอียดเบื้องต้น โดยส่วนใหญ่แล้วประกันเค้าจะทำการถามข้อมูลที่จำเป็นกับเราเอง เราแทบไม่ต้องพูดอะไรเลย แค่ติดต่อเค้าให้ได้เท่านั้นก็พอ
มีความอดทน ไม่เคลื่อนย้ายรถมั่ว
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ถ้าหากมันไม่ได้ขวางถนนซะจนขยับไม่ได้ ก็แนะนำว่าอย่าเลื่อนเลยครับ ปล่อยรถไว้อย่างนั้น รอจนกว่าจะมีตำรวจมา หรือประกันมาสั่งให้เลื่อน ค่อยเลื่อน และถ้าอุบัติเหตุของเรามันขวางการจราจรจริงๆ ก็ถ่ายรูปเอาไว้ทุกมุมเลยครับ ถ่ายไว้เป็นหลักฐานให้หมดก่อนจะเลื่อนรถออก
นี่ก็เป็นขั้นตอนเบื้องต้นสำหรับการเคลมประกันเวลารถเกิดอุบัติเหตุนะครับ เพราะหลังจากประกันมาปุ๊บ เค้าก็จะทำการตรวจเช็คและออกใบเคลมให้กับเรา ซึ่งจริงๆ แล้วการเคลมเนี่ยมันจะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ เคลมสด กับ เคลมแห้ง
เคลมสดคืออะไร
เคลมสด คือการชนแบบปกติ ที่เกิดอุบัติเหตุปุ๊บประกันก็รีบมาหาทันที เพื่อเช็กความเรียบร้อยและช่วยเหลือ พร้อมออกใบเคลม นี่แหละครับเคลมสด ซึ่งเคลมประเภทนี้เราจะได้หลักฐานในการติดต่อค่าเสียหายจากพนักงาน ซึ่งเราก็เอาไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทได้เลยทันที
เคลมแห้งคืออะไร
เคลมแห้ง คือการเคลมความเสียหายที่เกิดขึ้นแบบนานมาแล้ว เช่น เราขับรถชนรั้วแล้วรู้สึกว่าเสียเวลา มีธุระต้องทำ ก็เลยยังไม่โทรเรียกประกัน กลับมาถึงบ้านค่อยโทรแจ้ง อะไรประมาณนี้ ซึ่งจะเป็นความเสียหายแบบเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่การชนใหญ่เหมือนอย่างชนคน ชนรถด้วยกัน
สิ่งที่ต้องมีในการเคลมประกันแบบแห้ง
การเคลมประกันส่วนใหญ่ ถ้าเป็นเคลมสดจะไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ เราไม่ต้องสนใจใดๆ ทั้งสิ้น ประกันจัดการให้หมด แต่ถ้าเป็นเคลมแห้งเนี่ย มันจะต้องมีรายละเอียดเอาไว้บอกกับประกันด้วย สิ่งที่ต้องมีคือ
มีรายละเอียดวันที่ชน : ประกันเค้าต้องการรายละเอียดครับว่ารถเราไปเกิดเหตุอะไรมาวันไหนยังไงบ้าง ซึ่งทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้การเคลมราบรื่นคือ ต่อให้รถเราจะเกิดอุบัติเหตุนานแล้ว ก็ขอให้บอกประกันไปว่า มันเพิ่งเกิดเมื่อวาน อย่าบอกว่าเกิดนานแล้ว เพราะประกันจะสงสัยว่า เกิดนานแล้วทำไมเพิ่งแจ้ง และทำให้มีความคิดที่จะไม่เคลมให้เราได้
มีข้อมูลว่าชนอะไรมา : หลังจากบอกวันไปแล้วก็บอกด้วยครับว่าเราไปชนกับอะไรมา รั้ว กำแพง ฟุตบาท แจ้งตามจริงได้เลย ยกเว้นใครที่โดนชนแล้วหนี ตรงนี้ห้ามบอกว่าโดนชนแล้วหนีเด็ดขาด เพราะประกันจะให้เราไปหาคู่กรณีมา เช่น เอาทะเบียนรถคู่กรณีมาให้ ไม่งั้นไม่เคลม อะไรแบบนี้ครับ ซึ่งเรื่องจะยุ่งยากขึ้นอีกมากเลย
ใบเคลมประกันมีอายุถึง 1 ปี
สุดท้ายแล้วเพื่อนๆ ก็ควรจะรู้ไว้ด้วยว่าหลังจากที่ประกันทำการมาดูรถ และออกใบเคลมให้เรียบร้อยปุ๊บ เราไม่จำเป็นต้องเอารถเข้าอู่ทันทีก็ได้ เพราะใบเคลมนั้นมีอายุ 1 ปีเลยทีเดียว ถ้ายังไม่สะดวกก็ยังไม่ต้องเอาไปซ่อม รอพร้อมจริงๆ ก็ยังไม่สาย ส่วนวิธีเข้าซ่อมก็แค่นำใบเคลมที่เราได้จากประกันไปยื่นที่อู่ หรือศูนย์ซ่อมในเครือ เท่านี้ก็จะได้รับการดูแลแบบถึงที่สุดแล้วล่ะครับ
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องมีมากที่สุดในการเคลมประกันรถยนต์เลยก็คือ กล้องติดรถยนต์นี่แหละ เพราะนอกจากจะใช้เป็นหลักฐานชั้นดีว่าอุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นยังไงแล้ว มันยังเป็นตัวช่วยลดเบี้ยประกันให้เราได้อีกต่างหาก บริษัทประกันทุกที่จะลดค่าประกันลง ถ้ารถเรามีกล้องติดรถ เพราะมันเป็นนโยบายจากทางภาครัฐที่ต้องการให้คนไทยช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา เก็บภาพหลักฐานต่างๆ ไว้ตลอดเวลา และที่สำคัญมันช่วยให้ประกันทำงานง่ายขึ้น ไม่ต้องสืบค้นว่าใครผิดจริง ใครให้การเท็จเวลามีเหตุชนกันเกิดขึ้น ดูกล้องปุ๊บก็รู้ได้ทันที เพราะแบบนี้แหละรถทุกคันของเราจึงต้องมีกล้องติดรถเอาไว้ ส่วนใครยังไม่มี หรือไม่รู้จะซื้อที่ไหนให้ได้ของดี ราคาถูก มีประกันรับรอง ก็เข้าไปดูรายละเอียดกันได้ที่ ไรเซอร์ เลย